“เราชนะ” ตรวจผลทบทวนสิทธิ์ รอบ 2 พรุ่งนี้ 19 มี.ค.

18 มี.ค. 2564 | 09:57 น.

“เราชนะ” ผู้ยื่นทบทวนสิทธิ์ ระหว่างวันที่ 22 ก.พ. – 8 มี.ค. และผู้ยื่นภาษีปี 63 ภายใน 8 มี.ค. ตรวจสอบผลผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ได้ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 มี.ค. นี้

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผู้ที่ยื่น ทบทวนสิทธิ์ ในโครงการ “เราชนะ” ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2564 รวมถึงผู้ที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2563 แล้ว ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2564 สามารถตรวจสอบ ผลการทบทวนสิทธิ์ ได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป ผ่านทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com หรือ Call Center ของธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หมายเลขโทรศัพท์ 0 2111 1122

 

กุลยา ตันติเตมิท ผอ.สศค. ในฐานะโฆษก ก.คลัง

 

โดยผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ จำนวน 7,000 บาท ในวันที่ 25 มีนาคม 2564 และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ดังกล่าวผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ผ่านผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

 

ขณะที่ความคืบหน้าการใช้สิทธิ์ ในโครงการ “เราชนะ” ณ วันที่ 18 มีนาคม 2564 มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ รวมทั้งสิ้น  32.4 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 124,105 ล้านบาท  แบ่งเป็น

 

1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 51,060 ล้านบาท

 

2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน และ คนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯแล้ว 16.7 ล้านคน มีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 70,068 ล้านบาท

 

คืบหน้า โครงการเราชนะ 18 มีนาคม 2564

 

3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0  ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 2,977 ล้านบาท 

 

ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: