บลจ.กสิกร ปันผลกองทุน ‘ทองคำ-หุ้นญี่ปุ่น’ กว่า 200 ล้าน

08 ม.ค. 2564 | 04:20 น.

บลจ.กสิกรไทย จ่ายปันผลกองทุน K-GOLD-A(D) - K-JP กว่า 200 ล้านบาท ชี้ราคาทองคำโลกผันผวนสูง แนะถือกองทุนทองคำ 5-10% ของพอร์ต ส่วน K-JP แนะประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าลงทุน

นายนาวิน อินทรสมบัติ  รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)กสิกรไทย จำกัดเปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย จ่ายปันผลกองทุนเปิดเค โกลด์-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K-GOLD-A(D)) สำหรับรอบผลการดำเนินงานงวด 1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 2563 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดเค ญี่ปุ่น หุ้นทุน (K-JP) สำหรับงวด 1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 2563 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 2 กองทุนกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 มกราคม 2564 รวมมูลค่า  217.82 ล้านบาท

 

นาวิน อินทรสมบัติ

 

สำหรับกองทุน K-GOLD-A(D) ใช้กลยุทธ์การบริหารผ่านกองทุนหลัก SPDR Gold Trust  ที่เน้นลงทุนในทองคำแท่งเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำแท่งในตลาดโลก โดยกองทุนจ่ายปันผลนับตั้งแต่จัดตั้ง รวม 21 ครั้ง เป็นเงิน 5.55 บาทต่อหน่วย และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 6.68% ต่อปี

 

 

ทั้งนี้ ราคาทองคำมีความผันผวนสูง ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาด รวมถึงประเด็นทางการเมืองในหลายภูมิภาค ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยหนุนให้ปิดบวกได้กว่า 25% ในปีที่ผ่านมา ส่วนระยะถัดไปราคาทองคำยังคงมีแรงหนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเข้าสู่ภาวะติดลบ ทำให้ต้นทุนในการถือครองทองคำลดลง รวมถึงปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ ในขณะที่ปัจจัยกดดันหลักยังเป็นเรื่องความคืบหน้าในการอนุมัติใช้วัคซีน 

 

ส่วนกองทุน K-JP ใช้กลยุทธ์การบริหารผ่านกองทุนหลัก Schroder International Selection Fund Japanese Equity, Class A Acc​ ที่เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี มีความสามารถทางการแข่งขันสูง และมีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยกองทุนจ่ายปันผลนับตั้งแต่จัดตั้งรวม 10 ครั้ง เป็นเงิน 2.85 บาทต่อหน่วย และมีอัตรา Dividend Yield  เฉลี่ย 2.79% ต่อปี

 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังฟื้นตัวอย่างช้าๆ เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ในขณะที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมกว่า 13% ของ GDP โดยหวังเยียวยาเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น โดยผู้ลงทุนยังต้องจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดในประเทศญี่ปุ่น และประเทศคู่ค้าหลักๆ รวมถึงนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯที่จะมีต่อญี่ปุ่นในระยะถัดไป

 

“เราแนะนำให้นักลงทุนสามารถเข้าลงทุนกองทุน K-GOLD ทั้งในรูปแบบชนิดจ่ายเงินปันผล หรือ ชนิดสะสมมูลค่า เป็นสัดส่วน 5-10% ของพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยง ส่วนกองทุน K-JP แนะนำให้ประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าลงทุน”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บลจ.ไทยพาณิชย์ แนะลงทุนโค้งสุดท้ายกองทุนลดหย่อนภาษี SSF-RMF

บลจ.ธนชาต เพิ่มทุนกอง T-ES-GGREEN เป็น 12,000 ล้าน

นายกสมาคมบลจ. แนะกระจายพอร์ตลงทุน