จับตาทิศฟันด์โฟลว์หนุนตลาดหุ้นปี64

01 ม.ค. 2564 | 22:09 น.

จับตาฟันด์โฟลว์ไหลเข้า หนุนเป้าหมายดัชนี SET สิ้นปี 64 สู่ระดับ 1,550 จุด   "ASPS" แนะกลยุทธ์จัดพอร์ตลงทุนให้น้ำหนักหุ้นไทย 40% เลือกหุ้นขนาดใหญ่  PTT, KBANK, GULF, ADVANC,  หุ้นปันผลสูง AP, DCC  และเพิ่มความระมัดระวังหุ้น Overvalue  MAJOR, DELTA

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส หรือ ASPS ประเมินปี 2564 หลายปัจจัยหนุนฟันด์โฟลว์ไหลเข้าประเทศไทยผ่านช่องทาง ทั้งการลงทุนทางตรง เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนทางตรงในระดับต้นๆ ของเอเชีย ทั้งจากสิทธิพิเศษต่างๆ อาทิ สิทธิเช่าที่ดินสูงสุดถึง 99 ปี, อัตราภาษี&ดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงแรงงานไทยที่มีทักษะความชำนาญสูง ในมุมเม็ดเงินสนับสนุนจากทางภาครัฐในด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม และพลังงาน ก็ถือว่าโดดเด่น

 

การลงทุนทางอ้อม คาดเห็นความต่อเนื่องของฟันด์โฟลว์ที่โถมเข้ามาในตลาดการเงินช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2563 สูงเกือบ 5 หมื่นล้านบาท และยิ่งในภาวะดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำ มีโอกาสเห็นการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินจากพันธบัตรมาสู่ตลาดหุ้นมากขึ้นในระยะถัดไป รวมถึงทิศทางค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่า หนุนให้เกิดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น ถือเป็นตัวช่วยเพิ่มน้ำหนักในตลาดหุ้นอีกแรง

 

อีกทั้งยังมีแรงหนุนจากสภาพคล่องส่วนเกินในประเทศ ทั้งจากนักลงทุนรายย่อยที่มีการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นเพิ่มขึ้นมากถึง 6.6 แสนบัญชี/ปี และจากนักลงทุนสถาบันฯ ที่มีการลดสัดส่วนการถือครองตราสารหนี้ลง แต่เพิ่มน้ำหนักให้กับตลาดหุ้นและกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่แรงกดดันปกติในช่วงต้นปี 2564 อย่าง แรงขายคืน LTF น่าจะลดน้อยลงอย่างมีนัยฯ เนื่องจากยังไม่ครบกำหนดในการไถ่ถอนในระยะเวลา 7 ปีปฎิทิน

 

นอกจากนี้ 2564 ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสเติบโตถึง 38% ซึ่งจากข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่าปีไหนที่ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า หรือกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตแรง SET จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีเสมอ ฝ่ายวิจัยประเมินเป้าหมายดัชนี ภายใต้ MEYG 3.7% ถึง 3.5% ถือว่าอยู่ในระดับอนุรักษ์นิยมในภาวะฟันด์โฟลว์ไหลเข้า (MEYG เคยลงไปได้ลึกถึง 2.6% - 2.7%) คิดเป็น P/E ที่ 23.8 เท่า เมื่อคูณกับ EPS64F 65.04 บาท/หุ้น จะได้เป้าหมายแรกดัชนี 1550 ถัดไปที่ 1626 จุด อย่างไรก็ตามสถานการณ์ Covid-19 ที่ระบาดวงกว้างในประเทศ เป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตามใกล้ชิด

 

กลยุทธ์ลงทุน : คงน้ำหนักในหุ้นไทย 40%

 

ฝ่ายวิจัย ASPS แนะคงน้ำหนักหุ้นไทยไว้ที่ 40% (มากกว่าตลาดฯ) จากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว อีกทั้งมีหลายปัจจัยที่คอยสนับสนุนให้ Fund Flow ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องในระยะกลางยาว ดังนั้น กลยุทธ์ เลือกหุ้นขนาดใหญ่ คาดหวังการเติบโตในปีหน้า อาทิ PTT KBANK GULF และหุ้นปันผลสูงอย่าง ADVANC AP DCC ส่วน หุ้น Overvalue ที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน คือ MAJOR และ DELTA

 

การลงทุนต่างประเทศ

 

สถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ในต่างประเทศกลับมาแต่คาดสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นน้อยกว่าการระบาดครั้งก่อนๆ บวกกับเชื่อว่า Fund flow ยังมีทิศทางไหลเข้าตลาดหุ้นจากสภาพคล่องส่วนเกินที่ล้นระบบ ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ เพิ่มน้ำหนักหุ้นต่างประเทศ 5%เป็น 20% ของพอร์ตการลงทุน (Overweight) โดยเน้น หุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งที่ได้ประโยชน์ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่าง Hong Kong Exchanges & Clearing Ltd (388 HK) และ NetEase Inc (NTES US)

 

ตราสารหนี้

 

วัคซีนที่มีพัฒนาการเชิงบวกช่วยสนับสนุนสถานการณ์ COVID19 ดูดีขึ้นในระยะกลาง-ยาว ทำให้ความหวังลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นไปได้ยากขึ้น กลยุทธ์การลงทุน คงน้ำหนัก 20% ของ พอร์ตรวม เน้นลงทุนตราสารหนี้ที่ Duration เฉลี่ยไม่เกิน 3 ปีและ มี Rating ระดับ Investment grade ขึ้นไป เลือก CPNREIT232A และ SCC244A ส่วน Money Market ให้ลดน้ำหนักจาก 20% เหลือ 15%

 

 

จับตาทิศฟันด์โฟลว์หนุนตลาดหุ้นปี64