นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แม้ว่าวิกฤตโควิด-19 จะยังไม่หมดไป เพราะสะท้อนได้จากการหยุดชะงักของเศรษฐกิจที่ผ่านมา ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศเหมือนวิกฤติปี 2540 เพระดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจต่างๆ ดีขึ้น โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตร ทั้งยางพารา หรือข้าว ซึ่งจะทำให้มีกำลังซื้อจากภาคการเกษตร และมีกำลังเสริมจากมาตรการระยะสั้น ที่เน้นการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศทั้งมาตรการจ่ายเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ แห่งรัฐอีกเดือนละ 500 บาท 3 เดือน โครงการชิมช้อปใช้ และคนละครึ่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้
"นักท่องเที่ยวหายไปเลย 40 ล้านคน โรงแรมปิดตอนนี้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ก็มาช่วยธุรกิจโรงแรม เรื่องตั๋วเครื่องบินรัฐบาลก็ช่วยจ่ายให้ 40% ฉะนั้นตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจทั้งหลายเริ่มดีขึ้น ตอนนี้รัฐบาลต้องกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ เพื่อรอให้กำลังซื้อต่างประเทศเข้ามา"นายอาคม กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“เศรษฐพุฒ”รับ ผลโควิด-19 กระทบเศรษฐกิจไทย แรงและยาว
การเปิดประเทศ ทางรอดของเศรษฐกิจไทย?
คลัง เชื่อ เศรษฐกิจไทยฟื้นในไตรมาส 4
อย่างไรก็ตามแม้เศรษฐกิจในประเทศเริ่มดีขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือความยั่งยืน เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวจะมองแค่ตัวเลขอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมองเรื่องความยั่งยืน โดยยึดหลักความพอเพียง ไม่ใช่ไม่ให้ขยายธุรกิจ แต่ดูที่ขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาคให้ได้
นายอาคม ยืนยัน มีเม็ดเงินในการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างแน่นอน ซึ่งเงินส่วนหนึ่งมาจากงบประมาณปกติ แม้งบประมาณรายจ่ายปี 2564 จะล่าช้าก็ตาม และอีกส่วนจะมาจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ที่เม็ดเงินจะลงไปในระดับฐานราก สร้างความเข้มแข็งผู้ประกบการ ช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยว ผ่านโครงการต่างๆ ของรัฐ
นอกจากนี้ ยังมีเงินมาจากรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่มีกำไร และเงินกู้ รวมถึงเงินกองทุนต่างๆ ที่อยู่ที่สถาบันการเงิน ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องไม่มีเงินในการดูแลประเทศแน่นอน