ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 542 จุด รับคาดการณ์ผลเลือกตั้งสหรัฐ ไม่มีพรรคใดครองอำนาจเบ็ดเสร็จ

05 พ.ย. 2563 | 23:52 น.

ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 542.52 จุด ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งนี้ จะไม่มีพรรคใดครองอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรส

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งนี้จะไม่มีพรรคใดครองอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรส โดยพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มที่จะยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ซึ่งจะขัดขวางไม่ให้นโยบายปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของนายโจ ไบเดน ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส
          

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,390.18 จุด เพิ่มขึ้น 542.52 จุด หรือ +1.95% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,510.45 จุด เพิ่มขึ้น 67.01 จุด หรือ +1.95% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,890.93 จุด เพิ่มขึ้น 300.15 จุด หรือ +2.59%
          

นักลงทุนยังคงรอดูผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของสหรัฐ โดยขณะนี้ นายไบเดนได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 264 เสียง นำหน้าปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งได้คะแนน 214 เสียง โดยนายไบเดนต้องการอีกเพียง 6 เสียงเท่านั้นก็จะได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งหรือ 270 เสียงจากทั้งหมด 538 เสียง เพื่อชนะการเลือกตั้ง
          

อย่างไรก็ดี ผลการเลือกตั้งล่าสุดในวุฒิสภาบ่งชี้ว่า พรรครีพับลิกันมีแนวโน้มที่จะยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ซึ่งส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น เพราะอาจทำให้นโยบายการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของนายไบเดนไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส ซึ่งจะทำให้บริษัทจดทะเบียนยังคงได้รับประโยชน์จากนโยบายลดอัตราภาษีของรัฐบาลทรัมป์ต่อไป
          

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิปพุ่งขึ้นขานรับแนวโน้มพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่รัฐบาลของนายไบเดนออกมาตรการควบคุมกฎระเบียบของบริษัทเทคโนโลยี โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 2.54% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 3.19% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 3.55% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.38% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ทะยานขึ้น 5.04% หุ้น Nvidia พุ่ง 2.65%
          

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่า หากพรรครีพับลิกันของเสียงข้างมากในวุฒิสภา ก็จะช่วยคานอำนาจพรรคเดโมแครตในการออกมาตรการควบคุมกฎระเบียบของภาคธนาคาร โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส ทะยานขึ้น 4.05% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 3.93% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.58% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดีดตัวขึ้น 2.03%
          

หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของสหรัฐ พุ่งขึ้น 5.39% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไร 2.83 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.38 ดอลลาร์/หุ้น โดยได้แรงหนุนจากยอดขายรถบรรทุก และรถยนต์ SUV ในอเมริกาเหนือ
          

หุ้นควอลคอมม์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพรายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 12.75% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากยอดขายสมาร์ทโฟนระบบ 5G มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในปีหน้า
          

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมีการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นเหนือระดับเป้าหมาย 2%
          

ในการประชุมครั้งนี้ เฟดยังประกาศว่าจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน รวมทั้งใช้เครื่องมืออื่นตามที่จำเป็น โดยขึ้นอยู่กับพัฒนาการทางเศรษฐกิจ
          

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยลดลงสู่ระดับ 751,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากอยู่ที่ 758,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
          

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 530,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 7.7% ในเดือนต.ค.