ถล่มเทขายหุ้นกลุ่มแบงก์ กดราคาหุ้นรูด

22 มิ.ย. 2563 | 04:11 น.

ถล่มเทขายหุ้นกลุ่มแบงก์ กดราคาหุ้นแบงก์รูด โบรกมอง งดจ่ายปันผลแค่เลื่อนไปสมทบจ่ายเป็นปันผลเต็มปี มองมาตรการธปท. ระยะยาวเป็นผลดีกับแบงก์


จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ธนาคารพาณิชย์งดจ่ายปันผลระหว่างกาล และงดซื้อหุ้นคืน พร้อมมีคำสั่งให้ธนาคารไปจัดทำแผนบริหารจัดการระดับเงินกองทุนสำหรับระยุ 1-3 ปีข้าง โดยคำนึ่งถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต และศักยภาพของลูกหนี้ในการทำธุรกิจหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด -19 คลี่คลาย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเปิดตลาดเช้าวันนี้ ( 22 มิ.ย. 63 ) ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับร่วงยกแผง โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ที่จ่ายผลปันผลระหว่างกาล อาทิหุ้นธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ณ เวลา 11.00 น. อยู่ที่ระดับ 109 บาท ปรับตัวลดลง 6.50 บาท หรือ 5.63%  มูลค่าซื้อขาย 1,869 ล้านบาท , หุ้นธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK อยู่ที่ระดับ 91.50 บาท ปรับตัวลดลง 4.25 บาท หรือ 4.44% มูลค่าการซื้อขาย 3,016 ล้านบาท หุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB อยู่ระดับ 73.75 บาท ปรับตัวลดลง 3.50บาท หรือ 4.85%  มูลค่าการซื้อขาย 1,394 ล้านบาท และหุ้นธนาคารทิสโก้ จำกัด มหาชน ( TISCO ) อยู่ระดับ 72 บาท ปรับลดลง 1.50 บาท หรือ 2.04% มูลค่าการซื้อขาย 520 ล้านบาท 
 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

บล.เคทีบี ชี้ลดดอกเบี้ย กระทบ "หุ้นแบงก์" มากกว่า"งดจ่ายเงินปันผล"

 

เป็นผลดีระยะยาวต่อ"หุ้นกลุ่มแบงก์"

บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ถือเป็น sentiment เชิงลบต่อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ดี จะเห็นว่าไม่เฉพาะธปท.เท่านั้น ที่ประกาศมาตรการไม่ให้ธนาคารพาณิชย์จ่ายเงินปันผลและไม่ให้ซื้อหุ้นคืน แต่เป็นมาตรการของธนาคารกลางของหลายๆ ประเทศที่เป็นคนริเริ่ม และพร้อมใจกันประกาศแนวนโยบายคล้ายๆ กันหมด 

 

ทั้งนี้การเตรียมเงินกองทุนเพื่อรองรับ สถานการณ์ดังกล่าว ถือเป็นการเตรียมตัวพร้อมรองรับสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนของผลกระทบโควิด-19 ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจไทย และยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไร  ดังนั้นการเตรียมการดังกล่าว มองว่าน่าจะเป็นผลดีในระยะยาว เสริมภูมิคุ้มกัน สร้างความแข็งแกร่งต่อเงินกองทุนของกลุ่มธนาคาร และน่าจะบรรเทาปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต สำหรับการไม่จ่ายปันผลระหว่างกาลของกลุ่มธนาคารพาณิชย์  กระทบเพียงธนาคารที่จ่ายปันผลระหว่างกาลเท่านั้น 

 

อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์คลี่คลาย ก็อาจไปรวมจ่ายปันผลตอนสิ้นปีที่เดียวได้  มองว่าข่าวดังกล่าวเป็นเพียง sentiment เชิงลบ หากราคาหุ้นถูกขายลงมาอย่างหนัก เป็นโอกาส "ทยอยรับ" เมื่อราคาอ่อนตัว 

 

ปันผลหุ้นแบงก์หาย เป็นโอกาสหุ้นปันผลตัวอื่นเด่นขึ้น
          

ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่ากลุ่มแบงก์ถูกกระทบอย่างหนัก ทั้งการลดดอกเบี้ยนโยบาย และการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการของ ธปท. ซึ่งล่าสุดได้ออกมาตรการระยะ 2 ที่มีการลดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ 2-4% พร้อมทั้งขอให้แบงก์งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลและงดซื้อหุ้นคืน แน่นอนว่าเป็นปัจจัยลบเชิง Sentiment ต่อหุ้นกลุ่มแบงก์และตลาดรวม แต่เราอยากให้มองอีกด้านว่าดัชนีหุ้นกลุ่มแบงก์แกว่ง Underperform ตลาดมากอยู่แล้ว ขณะที่ เงินกองทุนของแบงก์อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และปันผลคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมากของเงินกองทุน ถ้า COVID-19 ไม่ระบาดรอบ 2 และแบงก์สามารถจัดทำแผนบริหารเงินกองทุนเพื่อสะท้อนความเสี่ยงในปัจจุบันได้เร็ว ปันผลระหว่างกาลที่งดจ่ายจะเป็นเพียงการเลื่อนเพื่อทบไปจ่ายเป็นปันผลเต็มปีเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย อาจชะลอการลงทุนหุ้นกลุ่มแบงก์ไปก่อน และถ้าอยากได้ปันผลระหว่างกาล เราได้คัดหุ้นใน SET100 ที่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลน่าสนใจไว้ให้ ซึ่งได้แก่ ADVANC/ INTUCH/ DTAC/ PTT/ SCC/ BPP/ TPIPP/ TTW/ LH/ SPALI