Play
ตลท.เตรียมโรดโชว์ลอนดอนต้นพ.ค.นี้
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
ตลท.เผยเตรียมโรดโชว์อีก 3 ครั้งในปีนี้ ดีเดย์ “ลอนดอน” ต้นเดือนพ.ค. หลังโรดโชว์เกาหลีใต้ล่าสุด 29 กองทุนให้การตอบรับดี
นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.มีแผนเดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศอีก 3 ครั้งในปีนี้ โดยไปลอนดอนช่วงต้นเดือนพ.ค. โตเกียวต้นเดือนก.ค.และสิงคโปร์ปลายเดือนพ.ย.นี้ หลังจากต้นปีไปฮ่องกงและล่าสุดเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการตอบรับดี มี 29 กองทุน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารจัดการรวมมากกว่า 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าพบบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ ตลท. ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) เดินทางไปโรดโชว์ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นการเปิดตลาดใหม่ในรอบ 3 ปี หลังผลสำรวจพบว่านักลงทุนเกาหลีใต้ยังไม่มีการลงทุนในไทย เนื่องจากในช่วง 3-4 ปีก่อนจีดีพีเกาหลีใต้เติบโตดีมาก แต่ขณะนี้รัฐบาลเริ่มให้ความสำคัญกับการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น
สำหรับโรดโชว์ครั้งนี้ได้นำบริษัทจดทะเบียน 8 แห่งไปให้ข้อมูล ได้แก่ BEAUTY, CPF ,TU, CENTEL, MINT, ANAN, AMATA และกองทุน DIF ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นจุดขายและแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ซึ่งในรอบพบปะระหว่างบริษัทจดทะเบียนกับนักลงทุนสถาบัน มีนักลงทุนสถาบันสนใจจองชื่อขอพบบริษัทเต็มทั้งหมด โดย BEAUTY ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก เพราะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับผิวพรรณที่เป็นที่นิยมในเกาหลีใต้ ขณะที่ CPF และ TU ได้รับความสนใจเช่นกัน เพราะถือว่าอุตสาหกรรมอาหารที่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก
“นักลงทุนสถาบันในเกาหลีใต้ส่วนใหญ่แปลกใจกับตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวได้ดี โดยคำถามหลักๆ เป็นเรื่องภาพรวมตลาดไทย เพราะถือเป็นตลาดที่ใหม่สำหรับเกาหลีใต้ ส่วนภาพรวมเศรษฐไทย ตลท. ได้อธิบายว่าจีดีพีของไทยต่อจากนี้คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 3% ขึ้นไป การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมีความชัดเจนมากขึ้น และได้อธิบายถึงนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) รวมถึงได้เน้นย้ำว่าในปีหน้าระบบชำระราคาของตลาดหุ้นไทยจะปรับเปลี่ยนเป็น T+2 ทำให้การซื้อขายมีการหมุนเวียนและสะดวกมากยิ่งขึ้น”นายสันติ กล่าว
ส่วนประเด็นการเลือกตั้งในไทย นักลงทุนสถาบันเกาหลีใต้ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เพราะคาดว่าอาจเห็นการทำงานของรัฐบาลที่สามารถเดินหน้าไปได้ด้วยดีในปัจจุบัน
สำหรับผลตอบรับด้านเม็ดเงินลงทุนหลังจากโรดโชว์คงต้องพิจารณาจากพฤติกรรมของนักลงทุนสถาบันประเทศนั้นเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่ฝั่งยุโรปจะตอบรับอย่างรวดเร็ว แต่การถือครองเงินลงทุนในตลาดอาจไม่นานมากนัก ขณะที่ในเอเชียอาจมีการตัดสินใจช้ากว่า แต่เงินลงทุนจะอยู่ในตลาดถือเป็นระยะยาวพอสมควร อย่างโรดโชว์เกาหลีครั้งนี้ กองทุนSamsung ที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารจัดการถึง 1.56 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนระยะยาว และสนใจเรื่องอัตราการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนก็เข้าร่วมรับฟังข้อมูลด้วย
นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.มีแผนเดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศอีก 3 ครั้งในปีนี้ โดยไปลอนดอนช่วงต้นเดือนพ.ค. โตเกียวต้นเดือนก.ค.และสิงคโปร์ปลายเดือนพ.ย.นี้ หลังจากต้นปีไปฮ่องกงและล่าสุดเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการตอบรับดี มี 29 กองทุน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารจัดการรวมมากกว่า 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าพบบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ ตลท. ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) เดินทางไปโรดโชว์ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นการเปิดตลาดใหม่ในรอบ 3 ปี หลังผลสำรวจพบว่านักลงทุนเกาหลีใต้ยังไม่มีการลงทุนในไทย เนื่องจากในช่วง 3-4 ปีก่อนจีดีพีเกาหลีใต้เติบโตดีมาก แต่ขณะนี้รัฐบาลเริ่มให้ความสำคัญกับการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น
สำหรับโรดโชว์ครั้งนี้ได้นำบริษัทจดทะเบียน 8 แห่งไปให้ข้อมูล ได้แก่ BEAUTY, CPF ,TU, CENTEL, MINT, ANAN, AMATA และกองทุน DIF ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นจุดขายและแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ซึ่งในรอบพบปะระหว่างบริษัทจดทะเบียนกับนักลงทุนสถาบัน มีนักลงทุนสถาบันสนใจจองชื่อขอพบบริษัทเต็มทั้งหมด โดย BEAUTY ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก เพราะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับผิวพรรณที่เป็นที่นิยมในเกาหลีใต้ ขณะที่ CPF และ TU ได้รับความสนใจเช่นกัน เพราะถือว่าอุตสาหกรรมอาหารที่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก
“นักลงทุนสถาบันในเกาหลีใต้ส่วนใหญ่แปลกใจกับตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวได้ดี โดยคำถามหลักๆ เป็นเรื่องภาพรวมตลาดไทย เพราะถือเป็นตลาดที่ใหม่สำหรับเกาหลีใต้ ส่วนภาพรวมเศรษฐไทย ตลท. ได้อธิบายว่าจีดีพีของไทยต่อจากนี้คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 3% ขึ้นไป การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมีความชัดเจนมากขึ้น และได้อธิบายถึงนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) รวมถึงได้เน้นย้ำว่าในปีหน้าระบบชำระราคาของตลาดหุ้นไทยจะปรับเปลี่ยนเป็น T+2 ทำให้การซื้อขายมีการหมุนเวียนและสะดวกมากยิ่งขึ้น”นายสันติ กล่าว
ส่วนประเด็นการเลือกตั้งในไทย นักลงทุนสถาบันเกาหลีใต้ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เพราะคาดว่าอาจเห็นการทำงานของรัฐบาลที่สามารถเดินหน้าไปได้ด้วยดีในปัจจุบัน
สำหรับผลตอบรับด้านเม็ดเงินลงทุนหลังจากโรดโชว์คงต้องพิจารณาจากพฤติกรรมของนักลงทุนสถาบันประเทศนั้นเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่ฝั่งยุโรปจะตอบรับอย่างรวดเร็ว แต่การถือครองเงินลงทุนในตลาดอาจไม่นานมากนัก ขณะที่ในเอเชียอาจมีการตัดสินใจช้ากว่า แต่เงินลงทุนจะอยู่ในตลาดถือเป็นระยะยาวพอสมควร อย่างโรดโชว์เกาหลีครั้งนี้ กองทุนSamsung ที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารจัดการถึง 1.56 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนระยะยาว และสนใจเรื่องอัตราการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนก็เข้าร่วมรับฟังข้อมูลด้วย