ชุดตรวจโควิด อย.อนุมัติขึ้นทะเบียน Rapid Antigen Test สำหรับประชาชนแล้ว

16 ก.ค. 2564 | 05:05 น.

อย.อนุมัติขึ้นทะเบียนชุดตรวจโควิด-19 Rapid Antigen Test แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง 4 รายการ คาดผู้ผลิต-นำเข้าเริ่มกระจายชุดตรวจ พร้อมกระจายถึงมือประชาชนได้ตั้งแต่วันนี้ ชี้ สามารถหาซื้อได้ที่สถานพยาบาล-หน่วยงานของรัฐ-ร้านขายยาที่มีเภสัชกรให้คำแนะนำ

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ขยายวงกว้างทำให้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องประชาชนต้องรอคิวตรวจด้วยวิธีมาตรฐาน RT-PCR เป็นจำนวนมากนั้น

ล่าสุดนายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ด้วยตนเอง ด้วยการอนุมัติขึ้นทะเบียนชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเองเพื่อให้ประชาชนรู้ถึงสถานการณ์การติดเชื้อของตนเองตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งจะเป็นการคัดแยกผู้ติดเชื้อได้รวดเร็วขึ้นและให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที

ขณะนี้ อย. อนุมัติขึ้นทะเบียนแล้วจำนวน 4 รายการ ซึ่งคาดว่า ผู้ผลิตและผู้นำเข้าจะเริ่มกระจายชุดตรวจไปถึงมือประชาชนได้ตั้งแต่วันนี้

ทั้งนี้ ชุดตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเองนี้จะวางจำหน่ายในสถานพยาบาล หน่วยงานของรัฐ และร้านขายยาที่มีเภสัชกร เพื่อให้คำแนะนำแก่ประชาชนเกี่ยวกับวิธีการใช้ วิธีการเก็บสิ่งส่งตรวจ วิธีการแปลผล ข้อปฏิบัติตัวหลังทราบผลการตรวจ และการทิ้งชุดตรวจอย่างเหมาะสม ขอให้ผู้บริโภคสังเกตที่ฉลากของชุดตรวจจะมีข้อความภาษาไทยระบุว่า “บุคคลทั่วไปสามารถใช้ได้” และเลขที่ประเมินเทคโนโลยี ที่ได้รับอนุมัติจาก อย. ปรากฏบนฉลากหรือเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ด้วย ซึ่งชุดตรวจดังกล่าวจะเป็นการเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกด้านหน้าหรือน้ำลาย โดยภายในชุดตรวจจะมีคู่มืออธิบายถึงวิธีการใช้ และวิธีการแปลผลฉบับภาษาไทย เพื่อให้ประชาชนเข้าใจและนำไปใช้ได้ได้อย่างถูกต้อง

เลขาธิการฯ อย. กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า ผู้บริโภคสามารถสามารถตรวจสอบชุดตรวจที่ได้รับอนุญาตจาก อย.ได้ทางเว็บไซต์กองควบคุมเครื่องมือแพทย์ 

ทั้งนี้ ผู้บริโภคไม่ควรซื้อชุดตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเองผ่านทางสื่อออนไลน์หรือแหล่งอื่น เนื่องจากอาจได้รับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน เสี่ยงต่อการนำไปใช้และแปลผลผิดพลาด สำหรับผู้ประกอบการที่จะโฆษณาจำหน่ายชุดตรวจต้องได้รับอนุญาตจาก อย. ก่อน หากฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ