หมอนิธิ ยก 7 เหตุผล ค้านฉีดวัคซีน"ไฟเซอร์"เข็ม 3 ให้บุคลากรทางการแพทย์

07 ก.ค. 2564 | 02:25 น.

"หมอนิธิ" ฟาดแรงค้านฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์" (Pfizer) กระตุ้นเข็มสามให้บุคลากรทางการแพทย์ เตือนสติด่านหน้า ยิ่งตระหนกจะทำให้ประชาชนยิ่งตื่นเต้นยิ่งกว่า-อย่าเห็นแก่ตัวในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่ได้ฉีดวัคซีนสักเข็มเดียว

เป็นที่ถกเถียงวิพากวิจารณ์กันว่า การฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ (Pfizer) เข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับบุคลากรหน้าด่านที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิดครบ 2 เข็มแล้วในห้วงเวลานี้มีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิดสักเข็มเดียว

ล่าสุด นายแพทย์นิธิ มหานนท์ ออกมาให้มุมมองความเห็นส่วนตัวในเรื่องนี้ โดยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ใจความว่า

ด้วยความเคารพและเห็นใจความกลัวการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีน โควิด-19 ครบแล้ว จนมีประกาศกันว่า จะให้บุคลากรด่านหน้าได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลังจากได้วัคซีนไปครบแล้วสองโดส ผมขอให้ข้อคิดว่า 

1. ต้องไม่ลืมว่าคนที่ได้รับวัคซีนครบแล้วไม่ว่าชนิดใดยังมีโอกาสติดเชื้อได้ ช่วงนี้มีรายงานว่า แพทย์พยาบาลติดเชื้อกันมากนั้นเป็นเพราะพวกเราด่านหน้าเสี่ยงได้รับเชื้อกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว แม้แต่จะมีอุปกรณ์ป้องกันเต็มที่อย่างดี แต่ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันทั้งโลก การที่พวกเรา (แพทย์) ตระหนกจะทำให้คนทั่วไปตื่นเต้นไปยิ่งกว่า

2. เรา (แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า และทุกคนที่แม้แต่คิด) ดูเห็นแก่ตัวไปไหม ในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่ได้วัคซีนสักเข็มเดียว ถ้าเราจะมารับการกระตุ้นเข็มสามกันก่อน

3. ยังไม่มีประเทศไหนในโลก ณ เวลานี้ ที่แนะนำให้ฉีดกระตุ้นวัคซีน โควิด-19 ด้วยเข็มสามในตอนนี้ จะเป็นเมื่อไหร่ สามเดือน หกเดือน แต่ทั้งนี้ ถ้าอยากรู้ก่อนอยากทำก่อนก็ทำได้ แต่ ... ควรทำเป็นการศึกษาให้เป็นระบบ ไม่ควรทำแบบทำไปมั่ว ๆ เหมือนที่ผ่านมา ไม่เก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ ไม่วางแผนให้เป็นระบบ ประเทศไทยก็จะไม่มีข้อมูลอีกเช่นเคยเหมือนในอดีต

ผมไม่แน่ใจจริง ๆ ว่า ทำเช่นนี้เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรกับวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ที่ได้รับ (บริจาค แลก ซื้อ) จำนวนพิเศษนี้หรือไม่ ... ไม่รู้จริงๆครับ พยายามช่วยหาเหตุผลอธิบายว่านโยบายการให้ฉีดกระตุ้นในบุคลากรการแพทย์นี้มีเหตุมีผลลึก ๆ อะไร

4. หลายแสนโดสที่จะได้รับบริจาคให้พวกเราส่วนหน้ามากระตุ้นภูมิ ถ้าจะฉีดให้คนไทยที่ยังไม่เคยได้วัคซีนได้ 350,000 คน จะสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ 3,000-4,000 คนทีเดียว ดีกว่าไปหาทางเพิ่มเตียงไหมครับ

5. ทำเช่นนี้ (ออกข่าว ประชาสัมพันธ์ ว่าแพทย์ใช้การกระตุ้นภูมิเข็มสาม) เท่ากับสร้างกระแสความเชื่อให้คนมีเงิน (ขี้อวด และขี้กลัว) แห่กันไม่ฉีดวัคซีนหลักที่มีขณะนี้ของรัฐบาลอยู่ แต่รอไปเสี่ยงติดเชื้อไปและแพร่เชื้อด้วยไปอีกหลาย ๆ เดือนเพื่อรอ mRNA vaccine ทางเลือก และนอกจากนี้ จะมีคน วีไอพี (ที่คนละประเภทกับ VIP ผม) ที่ไม่มีเงิน (แต่มีเครือข่ายมีสายมีเส้น) แห่กันไปลัดคิวแย่งคิววัคซีนหลักเพื่อกระตุ้นภูมิของคนที่ยังไม่ได้วัคซีนสักเข็มเดียว สังคมเราจะยิ่งมีความเหลื่อมล้ำไปกันใหญ่ไหมครับ ... ถ้าประเทศเรามีวัคซีนเกินพอ ผมเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์กับนโยบายนี้ 

6. ผมไม่แย้งไม่เถียงว่ามีข้อมูลทางการแพทย์มากมายที่ทำให้อาจคิดและอาจทำให้เชื่อต่อได้ว่าการได้รับวัคซีนกระตุ้นนั้นจะทำให้ป้องกันสายพันธุ์ใหม่ได้ดีขึ้น แต่รู้ได้อย่างไรล่ะครับว่ากระตุ้นเร็วหรือช้าในเวลานี้จะให้ผลเสียมากหรือน้อยกว่ากัน อย่าคิดแค่มุมที่ดีมากหรือน้อยกว่ากัน ... อย่าหลงตามกันไป จะตอบคำถามนี้ได้ "ต้อง" วิจัยและศึกษาให้เป็นระบบ อย่าสักแต่ว่า เชื่อ ฟัง และ ได้ยินเขาว่า ต่อ ๆ กันมา

7. ผมพูดมาตลอดว่าการระบาดของโรคใด ๆ นั้น เป็นเรื่องของสังคมศาสตร์มากกว่าวิทยาศาสตร์ วัคซีนไม่ใช่คำตอบเดียว ถ้าทำตามแนวทางและประชาสัมพันธ์ส่งเสริมที่จะให้เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็มที่สาม ณ เวลานี้ มีแต่จะทำให้เกิดความสับสน และแตกแยก เหลื่อมล้ำในสังคมมากขึ้นอย่างแท้

ผมไม่รู้ความตั้งใจของที่มาของการบริจาคมีเจตนาอย่างไร เล็งเห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำที่จะเกิดขึ้นไหม ... หรือเป็นเพียงแค่การตลาดบริษัทยา

ปกติผมไม่ค่อยชอบค้านอะไรตรง ๆ แบบนี้ แต่คราวนี้ขอผิดกติกาตัวเอง สงสารคนไทยอีก หลายสิบล้านคนที่ยังไม่ได้วัคซีน ... ผมขอค้านไม่เห็นด้วยในการให้ฉีดกระตุ้นเข็มสามในเวลานี้ ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีนครับ ถ้าใครจะได้รับการกระตุ้นเข็มที่สามควรต้องอยู่ในการศึกษาวิจัยที่เป็นระบบเท่านั้น ไม่เช่นนั้น ท่านเห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกเกินไปครับ

นิธิ มหานนท์

(วันนี้ความเห็นส่วนตัวไม่ขอลงตำแหน่งครับ แค่แพทย์คนหนึ่งที่ไม่ขอเห็นแก่ตัว)

6 กรกฎาคม 2564