"ยาไอเวอร์เม็กติน" ยาฆ่าพยาธิไม่มีประโยชน์รักษาโควิดจริงหรือ

01 ก.ค. 2564 | 03:35 น.

หมอธีระวัฒน์ ถาม "ยาไอเวอร์เม็กติน" หรือยาฆ่าพยาธิ ไม่มีประโยชน์จริงหรือที่จะรักษาโควิด ที่ปชช.ป่วยและวัคซีนมีจำกัด อาจจำเป็นต้องพิจารณาสมุนไพรและivermectin

จากกรณีกรมการแพทย์ แถลงถึงแนวทางการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยการใช้ ยาไอเวอร์เม็กติน (Ivermectin) ซึ่งเป็นยาถ่ายพยาธิในสัตว์ ร่วมกับยาฟาวิพิราเวียร์ โดยระบุว่า การรักษาด้วยยาไอเวอร์เม็กติน เป็นเพียงแนวทางการรักษาแบบหมายเหตุ ไม่ได้มีการสนับสนุนให้ใช้ยานี้ หรือห้ามนำมาใช้รักษาโดยเด็ดขาด แต่ให้เป็นดุลยพินิจของแพทย์ และขอให้ปฏิบัติแนวทางการรักษาหลักของประเทศ 

ทั้งนี้ ยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ในการรักษา และแม้มีการทดลองใช้รักษาในประเทศอินเดีย ก็เป็นเพียงการใช้ในระยะเวลาหนึ่ง และมีการประกาศยกเลิกการใช้แล้วอย่างเป็นทางการ เพราะว่าการใช้ยาไอเวอร์เม็กตินรักษาโควิด-19 ให้ผลสำเร็จในหลอดทดลองเท่านั้น

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha) โดยระบุว่า

คนไทยที่นอนรอโรงพยาบาลทั้งที่รู้ว่าเป็นแล้วหรือน่าจะเป็น แต่ตรวจไม่ได้เพราะไม่มีที่ตรวจเนื่องจากโรงพยาบาลไม่รับตรวจ เพราะถ้าตรวจแล้วต้องรับ ก็รับไม่ได้เพราะเตียงไม่มี

คนป่วยเหล่านี้ไม่มีอะไรช่วยเลย นอกจากรอเตียงและสวดมนต์ จริงอยู่เรามีฟ้าทลายโจร กระชายขาว และกัญชา เช่นสูตรถูกกฎหมายของท่านอาจารย์เดชา แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงได้

ในเรื่องยาฆ่าพยาธิ การแถลงของทางการ โดยยึดการศึกษาที่กล่าวว่าเป็นมาตรฐานว่า ไม่ได้ผลนั้น แท้จริงแล้วเป็นเช่นนั้นหรือไม่?

ในสถานการณ์ที่ประชาชนและคนป่วยไม่มีที่ยึดเหนี่ยวและวัคซีนยังมีข้อจำกัดทั้งจำนวนและความหลากหลายและประชาชนก็ยังเข้าไม่ถึง อาจมีความจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องสมุนไพรต่างๆและยาฆ่าพยาธิ ivermectin  

โดยที่แท้จริงแล้ว ไม่ได้มีข้อมูลแต่ในหลอดทดลองอย่างเดียวแต่มี

ข้อมูลในผู้ป่วยจริงในหลายประเทศที่ยากจนและช่วยได้

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าไม่ได้เป็นยาวิเศษ แต่อย่างน้อยผ่อนหนักให้เป็นเบาและยืดเวลาที่จะพอเข้าโรงพยาบาลได้ในอันดับต่อไป 
 

ข้อมูลที่โต้แย้งการศึกษาที่เรียกว่าเป็นมาตรฐาน (RCT) ที่ว่าไม่ได้ผลนั้น ดังปรากฏในวารสารที่แนบ และมีหลักฐานอื่น ที่ยอมรับได้ว่า สามารถใช้ได้ถ้ามีการแนะนำอย่างถูกต้อง โดยไม่ใช่ให้กินทุกวันแต่เป็นการกินต่อเมื่อเริ่มมีอาการ

ที่กล่าวเช่นนี้ไม่ได้ต้องการให้เกิดความขัดแย้งใดๆทั้งสิ้นและไม่ได้ต้องการให้ทางการร้อนตัว เอาเอกสารต่างๆหรืออ้างข้อมูลต่างๆ มายัน ซึ่งก็จะมีการขัดแย้งกันไม่รู้จบ

แต่ขอให้พิจารณาในบริบทของประเทศไทยที่อยู่ท่ามกลางวิกฤติ และดูประโยชน์ที่ได้ โดยที่ไม่มีโทษถ้าใช้ถูกต้อง