ตรวจน้อยไม่ใช่ติดเชื้อน้อย ระวังระบาดภายหลัง "หมอนิธิพัฒน์" แปลกใจ สระบุรี ตัวเลขลดเร็ว

03 มิ.ย. 2564 | 05:40 น.

หมอนิธิพัฒน์ เผยการตรวจน้อยไม่เท่ากับว่ามีการติดเชื้อน้อย แต่อาจจะทำให้มีการติดเชื้อภายหลังอีกจำนวนมาก และมีผู้ป่วยอาการหนักต้องเข้าโรงพยาบาลหลักตลอด

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (นิธิพัฒน์ เจียรกุล) โดยระบุว่า 
    สมุทรปราการเป็นบ้านหลังที่สองของผม เมื่อต้องจากฉะเชิงเทรามาศึกษาต่อในชั้นมัธยมและอุดมศึกษา ในครั้งศึกโควิดระลอกสอง ที่นี่มีความรุนแรงไม่แพ้จังหวัดอื่นในภาคตะวันออก และต่อเนื่องมาจนถึงระลอกสามที่ผ่านมากว่าสองเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีโอกาสมาเยี่ยมทีมโควิดสมุทรปราการเหมือนที่ตระเวนไปเกือบทั่วเขตบริการสุขภาพที่ 6 แห่งนี้ วันนี้ได้ฤกษ์ดีพอจะปลีกตัวจากงานประจำได้ หลังจากอิ่มหนำสำราญกับมื้อกลางวันแสนอร่อยกับศิษย์ทั้งสามที่ลงหลักปักฐานในฐานะลูกหลานคนปากน้ำ 
    พวกเราเดินเยี่ยมดูการจัดเตรียมขยายศักยภาพเตียงระดับ 2 และ 3 สำหรับใช้ดูแลผู้ป่วยปอดอักเสบโควิดตั้งแต่อาการปานกลางไปจนถึงอาการรุนแรงและอาการวิกฤต เนื่องจากต้องเร่งสร้างในเวลาจำกัด จึงต้องดัดแปลงสถานที่ตามบริบทโครงสร้างที่มีอยู่เดิม ที่พอจะช่วยเสริมเขี้ยวเล็บในเวลาอันสั้นได้บ้าง คือเติมเครื่องผลิตออกซิเจนเคลื่อนที่ได้ให้ 10 เครื่อง และเครื่องฟอกอากาศและกรองไวรัสชนิดเคลื่อนย้ายได้อีก 2 เครื่อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ป่วยและบุคลากร นอกจากนี้ยังช่วยให้ความเห็นต่อการจัดเตรียมสถานที่ การคัดแยกอุปกรณ์ PPE และการจัดหาเครื่องและชุดตรวจหาเชื้อโคโรนา-2019 โดยใช้เครื่องตรวจเชื้อวัณโรคดื้อยา เนื่องจากเวลาล่วงเลยไปมากจึงไม่ได้แวะไปเยี่ยมทีมโรงพยาบาลสนาม ได้ข่าวว่าในไม่กี่วันนี้ คงต้องขยายเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่แล้ว 1,000 เตียง
    ผ่านไปแค่วันเดียว ทำไมจังหวัดสระบุรีตกกระดานท็อปเทนลงไปได้ ไม่น่าเชื่อว่าจำนวนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจะลดหายไปได้เร็ว หากเลือกการแยกกักตัวร่วมกับการสุ่มตรวจในวงแคบ ทดแทนการเร่งตรวจเชิงรุกวงกว้างแบบที่ทำให้สถานการณ์ในกรุงเทพเริ่มควบคุมได้ในขณะนี้ อาจทำให้การควบคุมโรคในภาพรวมเป็นไปได้ช้า (ตรวจน้อยไม่เท่ากับติดน้อย แต่อาจทำให้ติดภายหลังเยอะ) และอาจทำให้มีผู้ป่วยอาการรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลักอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะนำไปสู่การเหนื่อยล้าของบุคลากร และการเสียประโยชน์ของผู้ป่วยโรคอื่นที่ไม่ใช่โควิด-19 เพราะบุคลากรและทรัพยากรถูกแบ่งจัดสรรไป

10 จังหวัดติดเชื้อโควิด-19 สูงสุด
    หวังว่าทีมโควิดไทยตัวจริงขณะนี้ จะสู้ใจขาดเช่นทีมวอลเลย์บอลหญิงเฉพาะกิจที่กำลังปฏิบัติภาระกิจอยู่ที่อิตาลี แม้พวกเธอจะแพ้ติดต่อกันมา 6 นัดและได้แค่เซตเดียวจากทีมคู่ต่อสู้ แต่สกอร์ที่แพ้เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ  หวังว่าในอีก 9 นัดที่เหลือจะพบกับชัยชนะสักนัดก็ยังดี หรือไม่ก็ได้เซตเพิ่มจากคู่ต่อกรในอนาคตเป็นเครื่องปลอบใจในช่วงที่โควิดมันคึกเหลือเกิน  
    #เซฟคนไทยและแรงงานต่างชาติ
    อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้นั้น "หมอนิธิพัฒน์" ได้เคยโพสข้อความเกีายวกับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ที่จังหวัดสระบุรี โดยระบุว่า สระบุรีมีผู้ติดเชื้อโควิดไล่จี้ติดจังหวัดเพชรบุรีเข้ามาติดๆ จากยอดผู้ติดเชื้อกลุ่มก้อนโรงงานแปรรูปไก่ขนาดใหญ่ ทำให้โรงพยาบาลสระบุรีต้องระดมเร่งสร้างโรงพยาบาลสนาม และเร่งขยายจำนวนเตียงระดับ 2 ภายในโรงพยาบาลหลักเพิ่มขึ้น

    สำหรับข้อมูล ณ วันที่ 1 มิถุนายน 64 จากรายงานของศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สระบุรีมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 833 ราย โดยอยู่ในลำดับที่ 6 ของการติดเชื้อรายวันที่ 83 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :