ตรวจภูมิต้านทานหลังฉีดวัคซีนโควิดไม่จำเป็น "หมอยง" ชี้การกระตุ้นเข็ม 3 ยังไม่มีข้อยุติ

31 พ.ค. 2564 | 00:46 น.

หมอยงเผยการตรวจภูมิต้านทานหลังฉีดวัคซีนโควิดไม่จำเป็น ระบุขณะนี้อยู่ในการทำเพื่อการวิจัยเท่านั้น ชี้การกระตุ้นเข็ม 3 ยังไม่มีข้อยุติ

รายงานข่าวระบุว่า ศ.นพ.ยง  ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสเฟซบุ๊ก (Yong Poovorawan) โดยมีข้อความว่า 
    โควิด-19  วัคซีน การตรวจภูมิต้านทานหลังฉีดวัคซีน ไม่จำเป็น 
    ยง ภู่วรวรรณ
    วัคซีนป้องกัน covid-19  ที่เราฉีดกัน การตอบสนองภูมิต้านทานจะเกิดขึ้น หลังฉีดครบแล้ว มากกว่า 99%  แม้กระทั่งวัคซีน AstraZeneca (แอสตร้าเซนเนก้า) เพียงเข็มเดียวภูมิต้านทานก็ขึ้นดีมาก การตรวจจึงไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด ระดับภูมิต้านทานที่ตรวจได้ในปัจจุบัน ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าระดับแค่ไหน เป็นระดับที่น้อยที่สุดในการป้องกันโรค
ถึงเรารู้ระดับภูมิต้านทาน เราก็จะยังไม่ทำอะไรอยู่ดี การกระตุ้นเข็มที่ 3 ก็ยังไม่มีข้อยุติ จนกว่าจะมีข้อมูลมากกว่านี้
    ดังนั้น ผู้ที่ซื้อ ชุดตรวจแบบรวดเร็ว ก็ยิ่งไม่จำเป็นใหญ่ เพราะการตรวจจะมีความไวไม่เพียงพอ จะให้ผลลบจำนวนมาก เสียสตางค์โดยใช่เหตุ ในการตรวจวัดเชิงปริมาณ หน่วยที่ใช้ก็ยังไม่ได้ใช้หน่วยเดียวกัน ในแต่ละห้องปฏิบัติการขึ้นอยู่กับชนิดของการตรวจ การแปลผลจะสับสนกันมาก จึงไม่มีความจำเป็นในการตรวจ
    เราจะเห็นหน่วยเป็น AU (Arbitrary Unit) หรือหน่วยตามอำเภอใจ ของบริษัทที่ตั้งขึ้น หรือหน่วยเป็น unit ยังไม่ได้ใช้หน่วยเดียวกันแบบไวรัส ตับอักเสบบี วัคซีน บางหน่วยเป็น ไดลูชั่น เช่น 1:10, 1:20, 1:40 ,,, หรือบางหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ inhibition  ผู้แปลผลจะสับสนมาก 

ศ.นพ.ยง  ภู่วรวรรณ
    การตรวจขณะนี้อยู่ในงานวิจัยเท่านั้น ไม่ควรนำไปใช้ในเชิงบริการ หรือโรงพยาบาลต่างๆที่ใช้วัดผลของวัคซีน โดยเฉพาะโรงพยาบาลบางแห่ง นำวิธีการตรวจแบบ เชิงคุณภาพ qualitative แล้วอ่านผลหน่วยเป็น COI คือเปรียบเทียบกับ cut off value ว่าเป็นกี่เท่า ทำให้ในการตรวจหลายแห่ง โดยเฉพาะใช้ชุดตรวจแบบรวดเร็ว หรือชุดตรวจแบบเชิงคุณภาพไม่ใช่เชิงปริมาณจะให้ผลลบเป็นจำนวนมาก ทำให้ดูเหมือนว่าวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพ และในขณะเดียวกันการวัดเชิงปริมาณในการแปลผล ก็ยังไม่มีข้อยุติว่าระดับใดคือระดับที่ป้องกันโรค
    การตรวจหลังฉีดวัคซีน จึงไม่แนะนำให้ทำ ขณะนี้อยู่ในการทำเพื่อการวิจัยเท่านั้น
    #หมอยง
    ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมข้อมูลการฉีดวัคซีนของประเทศไทยจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 28 ก.พ.-29 พ.ค. 64  พบว่า มีการฉีดไปแล้ว 3,548,330 โดส ประกอบด้วย เข็มที่ 1 ฉีดสะสมอยู่ที่จำนวน 2,453,807 ราย และเข็มที่ 2 ฉีดสะสมที่จำนวน 1,094,523 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :