ฉีดยาแรงหยุดการเคลื่อนไหวทุกคนในภาคที่โควิดระบาดหนักตัดวงจรจำเป็นต้องพิจารณา

11 พ.ค. 2564 | 02:30 น.

หมอธีระชี้หยุดการเคลื่อนไหวทุกคนในภาคที่โควิด-19 ระบาดหนักอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์จำเป็นต้องพิจารณา เพื่อตัดวงจร

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า

สถานการณ์ทั่วโลก 11 พฤษภาคม 2564

อินเดียมียอดเสียชีวิตเกินสองแสนห้าหมื่นคนแล้ว ยังติดเพิ่มกว่าสามแสนคน เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มถึง 632,838 คน รวมแล้วตอนนี้ 159,578,468 คน ตายเพิ่มอีก 10,723 คน ยอดตายรวม 3,316,758 คน 5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ อินเดีย บราซิล อเมริกา อิหร่าน และอาร์เจนตินา

อเมริกา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 27,782 คน รวม 33,512,219 คน ตายเพิ่ม 352 คน ยอดเสียชีวิตรวม 596,161 คน อัตราตาย 1.8%

อินเดีย ติดเพิ่มมากถึง 329,517 คน รวม 22,991,927 คน ตายเพิ่ม 3,879 คน ยอดเสียชีวิตรวม 250,025 คน อัตราตาย 1.1%

บราซิล ติดเพิ่ม 29,240 คน รวม 15,214,030 คน ตายเพิ่มถึง 1,018 คน ยอดเสียชีวิตรวม 423,436 คน อัตราตาย 2.8%

ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 3,292 คน ยอดรวม 5,780,379 คน ตายเพิ่ม 292 คน ยอดเสียชีวิตรวม 106,684 คน อัตราตาย 1.8%

ตุรกี ติดเพิ่ม 13,604 คน รวม 5,044,936 คน ตายเพิ่ม 282 คน ยอดเสียชีวิตรวม 43,311 คน อัตราตาย 0.9%

อันดับ 6-10 เป็น รัสเซีย สหราชอาณาจักร อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพัน

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์

แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เนปาล ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น

เนปาลตอนนี้หนักมาก ติดเพิ่มถึง 9,127 คน สูงสุดเท่าที่เคยเป็นมา และตายถึง 139 คน เป็นการสูญเสียที่แตะหลักร้อยต่อวันครั้งแรก ยอดติดเชื้อรวม 403,794 คน ยอดเสียชีวิตรวม 3,859 คน อัตราตาย 1%

แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง อยู่ระดับหลักร้อยถึงพันกว่า หลายประเทศกดลงมาอยู่หลักร้อย ยกเว้นคาซักสถาน ยูเครน ที่ยังหลักพัน

แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง

เกาหลีใต้ เวียดนาม และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักร้อยถึงเกือบพัน ส่วนจีน ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่นิวซีแลนด์ และฮ่องกงติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

เวียดนามมีติดเชื้อรายวันเกินร้อยมาต่อเนื่องสองวันแล้ว คงต้องเอาใจช่วยให้คุมได้โดยเร็ว

มาเลเซียระลอกสามนี้ ผ่านมาเดือนนึงการระบาดยังไม่ดีขึ้น ล่าสุด 3,807 คน จากระลอกสองพบว่าการติดเชื้อรายวันในระดับที่เป็นอยู่นี้จะไปพีคตอนอีกสองสัปดาห์ถัดไป ครั้งที่แล้วพีคไปถึง 5,728 คนต่อวัน ณ 30 มกราคม 2564 ตอนนี้รัฐบาลมาเลเซียได้ประกาศล็อคดาวน์สี่สัปดาห์ เพื่อควบคุมและตัดวงจรการระบาด

ข่าวล่าสุดจากอเมริกา ทาง USFDA อนุมัติให้ใช้วัคซีน Pfizer/Biontech ในเด็กอายุ 12-15 ปีแล้ว

จนถึงปัจจุบัน ข้อมูลทางการแพทย์เกี่ยวกับวัคซีน mRNA vaccines มีข้อมูลที่เยอะมาก ประสิทธิผลและประสิทธิภาพสูง และปลอดภัย

สำหรับสถานการณ์การระบาดในไทย

ไทยเรามียอดสะสมห่างจากฟินแลนด์อยู่ราว 3,800 คน และห่างจีนราว 5,700 คน ในขณะนี้เราติดเพิ่มวันละเกือบสองพัน แต่ฟินแลนด์ติดหลักร้อย จีนติดหลักสิบ คาดว่าจะแซงฟินแลนด์และจีนในสัปดาห์นี้

การระบาดยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ตรวจคัดกรองยังคงทำได้ระดับหลักหมื่นต่อวัน ซึ่งไม่น่าจะเพียงพอ ในขณะที่ระบบสุขภาพใกล้ถึงขีดจำกัดในการรับมือผู้ป่วยหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกทม.และปริมณฑล

การตัดสินใจหยุดการเคลื่อนไหวด้วยกันทุกคนในภาคที่ระบาดหนัก อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องพิจารณา เพราะแม้จะอ้างเหตุผลว่ามีการติดเชื้อในครัวเรือนเยอะขึ้นมาก แต่ต้องยอมรับความจริงว่า คนนำเชื้อเข้ามาในบ้าน ก็เพราะตะลอนข้างนอกนั่นเอง ถ้าไม่หยุด ก็ไม่มีทางหยุดได้ แน่นอนว่าหยุดช่วงแรกจะยังมีติดในครัวเรือนต่อไปอีกระยะ เพราะมีการติดเชื้อโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ได้ตรวจอยู่อีกจำนวนไม่น้อย แต่ต้องอดทนเพียงพอที่จะตัดวงจรการระบาด

เงื่อนเวลาคงไม่พ้นเดือนนี้ว่า มาตรการที่ทำอยู่นั้น หากไม่เพียงพอในการรับมือสถานการณ์จริง ก็จะเสี่ยงต่อการเผชิญศึกที่หนักหน่วงกว่าปัจจุบันได้ และจะมีโอกาสสูญเสียมาก

อย่างไรก็ตาม ยังคงเน้นย้ำให้เราทุกคนป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด

ตะลอนน้อยๆ ใส่หน้ากากเสมอ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า พกเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัว ล้างมือบ่อยๆ หลังจับสิ่งของสาธารณะ อยู่ห่างคนอื่นมากๆ เจอคนน้อยๆ สั้นๆ ออนไลน์ดีกว่า ระวังสุขาสาธารณะ คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ให้แยกตัวจากสมาชิก และรีบไปตรวจรักษา ช่วยเหลือแบ่งปันคนในสังคมตามกำลัง

ด้วยรักและห่วงใย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :