หยุดดราม่า! ความเข้าใจวัคซีนโควิด -19 ทำไมต้องฉีด

03 พ.ค. 2564 | 06:30 น.

โควิด-19 คนไทยร่วมทุเลาปัญหาได้ หากเร่งฉกระจายและฉีดวัคซีน เผย เชื้อกลายพันธุ์ สร้างปัญหาหนัก แพร่เร็ว เชื้อรุนแรง ผู้ป่วยอาการหนัก ส่งผลกระทบถึงเสียชีวิต ที่เพิ่มปริมาณมากขึ้น ขณะที่ทรัพยากรทางการแพทย์ และยารักษา เริ่มขาดแคลน

สถานการณ์โควิด -19 ระลอกใหม่ ต้องยอมรับกันโดยถ้วนหน้าว่า เป็นวิกฤติโลกรอบใหม่ที่รุนแรงกว่าเก่ามาก เพราะนอกจากจะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว จากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ความร้ายแรงของเชื้อกลายพันธุ์เหล่านี้ ยังคร่าชีวิตคนได้จำนวนมาก เนื่องจากบางคนติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ กว่าจะรู้จะสายเกินแก้ ไม่ต่างกับภาวะมะเร็งบางประเภทเลยทีเดียว

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรื่องอื่น คือ ไวรัสโควิด -19 มีการกลายพันธุ์ได้เรื่อยๆ จะบอกว่าเป็นรายวันเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นไม่น่าแปลกใจเลย ที่นักวิจัยจากห้องปฏิบัติการแห่งชาติ ลอส อลาโมส (แอลเอเอ็นแอล) หนึ่งในห้องปฏิบัติการวิจัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก สังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐ ออกมาเปิดเผยว่า ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งเกิดขึ้นในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และขณะนี้ เราก็ได้พบแล้วว่า มีเชื้อกลายพันธุ์ทั้งในอังกฤษ บราซิล อินเดีย 

ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล

จากรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ซึ่งทางศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ได้มีการรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง  

"ดร.นายแพทย์ ประสิทธิ์" ได้ยกตัวอย่างผลของการฉีดวัคซีนในประเทศต่างๆ สิ่งที่เห็นได้ชัด หลังจากบางประเทศเริ่มฉีดวัคซีน พบว่าอัตราผู้ป่วยใหม่ และอัตรการเสียชีวิตลดลง ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ สหรัฐอเมริกา จากข้อมูลถึงวันที่ 30 มกราคม 2564 มีการฉีดวัคซีนไปราว 28 ล้านโดสจำนวน 23 ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณ 7% ของจำนวนประชากร พบว่าจำนวนผู้ป่วยใหม่ต่อวันลดเหลือไม่ถึง 2 แสนคนต่อวัน จากเดิมอยู่ที่ 2-3 แสนคนต่อวัน

ตัวเลขล่าสุด ปลายเดือนเมษายน 2564 สหรัฐอเมริกา ฉีดวัคซีนไปแล้ว 225 ล้านโดส จำนวนราว 230 ล้านคน หรือประมาณ 41.8% สำหรับคนที่ฉีดแล้วหนึ่งโดส และ 28% ที่ฉีดครบโดส ตอนนี้อัตราการติดเชื้อเพิ่มลดลง จาก 2 แสนกว่ารายต่อวัน ตอนนี้เหลือประมาณ 4 หมื่นกว่ารายต่อวัน ขณะที่ อัตราการเสียชีวิต เริ่มลดลง จาก เกือบ 1,800 รายต่อวัน ตอนนี้เหลือ 400 กว่าคนต่อวัน

หรือจะเป็นส่วนสหราชอาณาจักร ที่เริ่มฉีดตั้งแต่กันยายน 2563 หลังจากพบว่าสายพันธุ์ยูเค หรือสายพันธุ์อังกฤษ (B117)  ทำให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและรุนแรง จึงนำวัคซีนไฟเซอร์ เข้ามาเร่งฉีด ทำให้ตอนนี้ผู้ป่วยใหม่จกาเดิมเพิ่มขึ้นวันละ 5 หมื่นกว่าราย เหลือประมาณ 2,000 กว่ารายต่อวัน ซึ่งขณะนี้ฉีดครบโดสไปแล้วประมาณ 18% ของจำนวนประชากร ทำให้กราฟผู้เสียชีวิตลดลงเหลือแค่ 6 คนต่อวัน 

ขณะนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่เร่งฉีดวัคซีน โดยประเทศที่ฉีดไปแล้วเยอะที่สุด คือ อิสราเอล ที่ฉีดไปแล้วกว่า 10 ล้านดดส ฉีดวันละกว่า 1 หมื่นโดสให้ประชากรวันละ 8.8 ล้านคน ขณะนี้เขาฉีดวัคซีนให้ประชากรไปแล้ว 59.4% ของจำนวนประชากรทั้งหมด สำหรับคนที่ได้รับ 1 โดส ส่วนคนที่ได้ครบ 2 โดสแล้วมี 55.3% อิสราเอลถือเป็นประเทศต้นแบบ ที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการฉีดวัคซีน ในการควบคุมเชื้อโควิด -19  

สำหรับวัคซีนโควิด-19 ขณะนี้ทั่วโลกมีประมาณ 8 ยี่ห้อ ที่ใช้มากสุด 91 ประเทศ คือ แอสตร้าเซนเนก้า (Astrazeneca) และรองลงมาคือ Pfizer ใช้ใน 83 ประเทศ ส่วน Sputnik V ของรัสเซีย ใช้แล้วใน 62 ประเทศ Moderna  ของสหรัฐอเมริกา ใช้ 46 ประเทศ Johnson& Johnsonใช้ 40 ประเทศ Sinapharm ของจีน ใช้ 35 ประเทศ Sinovac ใช้แล้วใน 22 ประเทศ และ Covaxin ของอินเดีย ใช้ 6 ประเทศ

หยุดดราม่า! ความเข้าใจวัคซีนโควิด -19 ทำไมต้องฉีด

สิ่งที่คนไทยควรค้องระวังอย่างหนัก ขณะนี้มีการกลายพันธุ์ของเชื่อโควิด -19 เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่น่ากลัวกว่าเดิม 

เรื่องจาก B.1.1.7 สายพันธุ์สหราชอาณาจักร เมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดิม พบว่าแพรากระจายเร็วขึ้น เดิมพบว่าไม่เพิ่มความรุนแรง แต่รายงานล่าสุดจากสหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นว่าสายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์นี้ ทำให้การเสียชีวิตเพิ่มขึ้น และที่น่าเป็นห่วงคือ พบสายพันธุ์นี้ในไทยแล้ว

อีกหนึ่งสายพันธุ์ B.1.351 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ พบว่าแพร่กระจายเร็วขึ้น และจากข้อมูลล่าสุด ยังไม่พบว่าเพิ่มความรุนแรง

ส่วนสายพันธุ์บราซิล P.1 พบครั้งแรก มกราคม 2021 เมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดิม พบว่าแพร่กระจายเร็วขึ้นทและมีโอกาสติดซ้ำ

ล่าสุด คือ สายพันธุ์อินเดีย B.1.617 พบในอินเดียเมื่อ ตุลาคม 2020 สายพันธุ์นี้รายละเอียดทางการแพทย์ยังน้อย 

ความจริงที่น่าเป็นห่วงมากๆ ขณะนี้คือ สัดส่วนผู้ป่วยที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยที่มีปอดอักเสบ ต้องใช้เครื่องข่วยหายใจ มีปริมาณเพิ่มขึ้น  ส่งผลให้มีอัตราผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ สันนิฐานได้ทั้งจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วย และความรุนแรงของเชื้อกลายพันธุ์

หยุดดราม่า! ความเข้าใจวัคซีนโควิด -19 ทำไมต้องฉีด

ที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง รวมถึงผู้เสียชีวิต พบว่าในผู้ป่วยที่มีอายุน้อยเพิ่มมากขึ้น

การที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น คนที่มีอาการรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ส่งผลไปถึงทรัพยากรทางการรักษา ไม่ว่าจะเป็นเตียงผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์บางประเภท เริ่มไม่เพียงพอ รวมไปถึงยาที่ต้องใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาทิ Favipiravir, Remdesivir มีการแย่งสั่งซื้อหรือควบคุมการจำหน่ายจากประเทศผู้ผลิต

นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่าน พยายามออกมาย้ำเสมอว่า การฉีดวัคซีนเป็นจำเป็น เพราะเป็นเครื่องสำคัญ ในการกำจัดการแพร่ระบาด และที่สำคัญอย่างยิ่ง "การฉีดวัคซีนจะเห็นผล เมื่อประชากรอย่างน้อย 25% ของประเทศ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เพราะฉะนั้นการฉีดได้เร็วและฉีดได้มาก เป็นสิ่งจำเป็น" ซึ่งสามารถดูได้จากข้อมูลประเทศอื่นๆ ที่มีการฉีดวัคซีนโควิด -19 แล้ว

หยุดดราม่า! ความเข้าใจวัคซีนโควิด -19 ทำไมต้องฉีด

ความจริงที่น่ารู้ เกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน
- ประมาณ 95% ของผู้ปวยติดเชื้อโควิด 19 จะเกิดภูมิคุ้มกัน และอาจจะสูงพอป้องกันหรือยับยั้งเชื้อได้ตั้งแต่ 8 วันหลังการติดเชื้อ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ถ้ารุนแรงน้อย ระดับภูมิคุมกันที่เกิดขึ้นก็น้อยตามไปด้วย
- ระดับภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น จะขึ้นเร็วใน 3 สัปดาห์แรก หลังการติดเชื้อ แล้วจะค่อยๆ ลดลง การศึกษาของ Public Health Endland (PHE) ระบุว่า ภูมิคุ้มกัน จะคงอยู่ไม่น้อยกว่า 5 เดือน แต่ไม่น่าจะคงอยู่นาน
- จากภูมิคุ้มกันที่ไม่ได้อยู่นาน ทำให้คนๆ นั้นสามารถติดเชื้อซ้ำได้ 
- จำนวนสัดส่วนประชากรที่มีภูมิคุ้มกัน ที่จะก่อให้เกิด Herd (Community) Immunity หรือภูมิคุ้มกันหมู่ ในการแพร่ระบาดของโควิด 19 ยังไม่ทราบชัดเจน สำหรับโรคหัด คือ 95% ในโปลิโอคือ 80%

การแพร่ระบาดและความรุนแรงของไวรัสโควิด -19 ครั้งใหม่นี้ หากยังไม่สามารถหยุดกระแพร่ระบาดได้ ประเทศอาจตกอยู่ในภาวะสงคราม ที่ต้องเก็บไว้เฉพาะผู้มีสิทธิรอด คนไข้อาการหนัก ที่มีโอกาสรอดน้อย อาจต้องถูกปล่อยให้จบชีวิตลง ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้ปป่วยโควิด แต่หายถึงผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆ ทั่วไป เพื่อให้มีปริมาณทรัพยากรทางการแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ที่เพียงพอ...อย่าปล่อยให้ถึงวันนั้น คนไทยช่วยกันได้

สรุป ย้ำอีกทีชัดๆ คือ การฉีดวัคซีนเป็นจำเป็น เพราะเป็นเครื่องสำคัญ ในการกำจัดการแพร่ระบาด และที่สำคัญอย่างยิ่ง "การฉีดวัคซีนจะเห็นผล เมื่อประชากรอย่างน้อย 25% ของประเทศ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เพราะฉะนั้นการฉีดได้เร็วและฉีดได้มาก 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง