เปิด “สายด่วน 1668 “ ช่วยผู้ติดเชื้อโควิดหาเตียง

09 เม.ย. 2564 | 12:20 น.

กระทรวงสาธารณสุข จับมือโรงเรียนแพทย์ กรุงเทพมหานคร ตำรวจ-กลาโหม โรงพยาบาล เปิดสายด่วน 1668  ช่วยผู้ติดเชื้อโควิด หาเตียง

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์

 

วันที่ 9 เมษายน 2564  ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ แถลงข่าวการบริหารจัดการเตียงรองรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ว่า การบริหารจัดการเตียงในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีการดำเนินการร่วมกันภายใต้ 5 เครือข่าย ได้แก่ กรมการแพทย์ โรงเรียนแพทย์ กรุงเทพมหานคร ตำรวจ-กลาโหม และโรงพยาบาลเอกชน โดยจัดทำข้อมูลเตียงผ่านระบบคอมพิวเตอร์ร่วมกัน ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลเอกชนในการรับผู้ติดเชื้อ ข้อมูล ณ วันที่ 8 เมษายน 2564 เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน มีจำนวนเตียงรองรับผู้ติดเชื้อโควิดอีกเกือบ 300 เตียง

 

“แนวคิดการบริหารจัดการเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้นโยบายว่า ผู้ติดเชื้อโควิดทุกรายควรได้รับการรักษาในโรงพยาบาล และมีข้อตกลงกันในเครือข่ายว่า โรงพยาบาลที่ตรวจพบเชื้อโควิดต้องดำเนินการประสานในเครือข่าย เพื่อให้ผู้ป่วยทุกรายเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ดังนั้น ขอความร่วมมือโรงพยาบาลเอกชน หากตรวจพบเชื้อแล้วไม่มีเตียงรองรับ สามารถประสานส่งต่อในเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน หรือส่งต่อข้ามเครือข่ายได้ ซึ่งเป็นหลักการที่ตกลงกันมา 1 ปีแล้ว”นายแพทย์สมศักดิ์กล่าว

 

ทั้งนี้ ในการจัดหาเตียงให้เพียงพอรองรับผู้ป่วย กรมการแพทย์และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ดำเนินการจัดหา Hospitel คือ ใช้ห้องพักโรงแรมทำเป็นโรงพยาบาล เพื่อดูแลผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ซึ่งขณะนี้จัดหาได้แล้ว 800 เตียง และจะหาเพิ่มเป็น 1,000 เตียง ภายใน 1-2 วันนี้ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติได้เตรียมเปิดโรงพยาบาลสนาม 450 เตียงในสัปดาห์นี้

 

เพื่อแก้ปัญหาไม่มีเตียง ทางสถาบันเพื่อการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ รับผู้ป่วยได้ทันทีวันนี้ 40 เตียง นอกจากนี้ ยังได้เปิดบริการสายด่วนกรมการแพทย์ 1668 ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อที่ยังไม่มีเตียงรักษา อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนประเมินความเสี่ยงของตนเองก่อนเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ที่เว็บไซต์ของโรงพยาบาลราชวิถี หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงให้เข้ารับการตรวจ ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ ให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเองหรือปรึกษาสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความแออัดในการรอรับบริการ