ใกล้พื้นที่เสี่ยง"โควิด" กทม.ประกาศปิดโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน

02 ก.พ. 2564 | 13:04 น.

เลี่ยงโควิด!กทม.สั่งปิดโรงเรียนวัดจันทร์ประดิษฐาราม และ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตบางบอน เขตหนองแขม และเขตภาษีเจริญ

สืบเนื่องจากกรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัยได้ค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่เสี่ยง ( ACTIVE CASE FINDING / Sentinel Surveillance ) ของโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตภาษีเจริญ มีพนักงานทั้งหมด 887 คน เป็นคนไทย 300 คน และเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า 587 คน เบื้องต้นพบผู้ติดเชื้อรวม 27 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 130 ราย 


นอกจากนี้โรงงานดังกล่าวยังมีโรงงานในเครืออีก 1 แห่ง ซึ่งมีพนักงานทั้งสิ้น  1300 คน โดยสำนักอนามัยได้จัดเก็บตัวอย่างน้ำลายพนักงานโรงงานในเครือเพื่อตรวจหาเชื้อโควิดแล้ว จำนวน 800 คน อยู่ระหว่างรอผลส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 และจะเร่งเก็บตัวอย่างน้ำลายพนักงานอีก 500 คน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ก.พ. 64

 

กทม.ประชุมสถานการณ์โควิดและประกาศปิดโรงเรียนใกล้พื้นที่เสี่ยง

 

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการตรวจเชิงรุกในครั้งนี้ ได้เล็งเห็นว่า พื้นที่บริเวณใกล้กับโรงงานเป็นที่ตั้งของโรงเรียนวัดจันทร์ประดิษฐาราม สังกัดกรุงเทพมหานคร ดังนั้นจึงได้สั่งปิดโรงเรียนดังกล่าวชั่วคราว ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 5 ก.พ. 64
ส่วนโรงเรียนจันทร์ประดิษฐารามวิทยาคม สังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ได้ประสานไปยังผู้บริหารโรงเรียนเพื่อขอให้พิจารณาปิดการใช้สถานที่ด้วยเช่นกัน
 

นอกจากนั้นแล้ว ยังได้สั่งปิดศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตบางบอน เขตหนองแขม และเขตภาษีเจริญ ตั้งแต่บัดนี้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง  ทั้งนี้เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ ด้วย 

 


ร.ต.อ.พงศกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ศบค.กทม.ขอให้ประชาชนดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ตามที่ราชการกำหนด ได้แก่ การรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล สวมหน้ากากนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้านหรืออยู่ในสถานที่สาธารณะ หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสม่ำเสมอ และการใช้แอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ”  (D M H T T)  เป็นต้น เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ต่อไป