คนไทยยังกังวลผลข้างเคียงวัคซีนโควิด-19

31 ม.ค. 2564 | 06:43 น.

สวนดุสิตโพล สำรวจคนไทย พบยังกังวลกับผลข้างเคียง 82.71% ขณะที่ 63.88% เชื่อมั่นว่าวัคซีนจะป้องกันโควิด -19 ได้ และ 65.99% พร้อมฉีด แต่ขอดูผลข้างเคียงก่อน

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “คนไทยกับวัคซีนโควิด-19” จำนวน 1,570 คน สำรวจวันที่ 22 – 29 มกราคม 2564 พบว่า ส่วนใหญ่ประชาชนรู้จักวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเท็ค (Pfyzer- BioNTech) มากที่สุด 64.27%  รองลงมาคือ อ๊อกฟอร์ด-แอสตราเซเนกา (Oxford-Astrazeneca) 52.55% สิ่งที่กังวลมากที่สุด คือ ผลข้างเคียงของวัคซีน 82.71%  โดยต้องการจะฉีดวัคซีน แต่ขอดูผลข้างเคียงก่อน 65.99% ทั้งนี้ ค่อนข้างเชื่อมั่นว่าเมื่อฉีดวัคซีนแล้วจะป้องกันโควิด-19 ได้ 63.88% และหลังจากฉีดวัคซีนแล้วจะยังดูแลสุขภาพตัวเองเหมือนช่วงที่ผ่านมา 60.83%
    
เรื่องวัคซีนโควิด-19 เป็นประเด็นร้อนที่หลายฝ่ายตั้งคำถามต่อการบริหารงานของรัฐบาล เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับการดำเนินงานของหลายประเทศต่างมีความคืบหน้าอย่างมากในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ความแตกต่างที่เห็นได้ชัด ทำให้ประชาชนเกิดความกังวลใจทั้งในเรื่องยี่ห้อวัคซีน ประสิทธิภาพ ผลข้างเคียง กระบวนการจัดซื้อ ความล่าช้า ราคา และความโปร่งใส นับว่าเรื่องวัคซีนโควิด-19 เป็นโจทย์ที่ท้าทายรัฐบาลอย่างยิ่งในการเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน

จากผลสำรวจในเรื่อง “คนไทยกับวัคซีนโควิด-19” บ่งชี้ได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจและติดตามข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ทั้งในด้านของประสิทธิภาพ ราคา และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ภายหลังจากการได้รับวัคซีน ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ยังส่งผลกระทบโดยตรงกับความเชื่อมั่นของประชาชนในด้านความปลอดภัยของวัคซีน โดยสะท้อนจากผลสำรวจ ที่พบว่า ประชาชนยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนมากถึง 82.71% ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานทางภาครัฐ ที่ต้องดำเนินการเร่งชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาชนถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนโควิด-19 ที่มีความแตกต่างกันของแต่ละบริษัท

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ แต่ประชาชนยังคงต้องมีการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด เนื่องจากเชื้อโควิด-19 จะยังไม่ได้หายไปในระยะเวลาอันสั้นนี้ การฉีดวัคซีนมีจุดมุ่งหมายในการป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง อีกทั้งช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อลง ดังนั้นการป้องกันตนเองโดยการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัด ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวันต่อไป