เบื้องหลัง "วัคซีนโควิด"  บิ๊กตู่ สั่ง "เลขานายกฯ" ถกความคืบหน้า-เตรียมจัดซื้อ

22 ม.ค. 2564 | 12:29 น.

"นายกรัฐมนตรี"  มอบหมาย "เลขาธิการนายกรัฐมนตรี" ให้เปิดตึกไทยคู่ฟ้า เรียกประชุมวงเล็ก เพื่อเตรียมการจัดซื้อวัคซีนโควิดตามแผน ย้ำดำเนินการให้โปร่งใส-ถูกกฎหมายทุกขั้นตอน 

วันที่ 22 ม.ค.2564 แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยกับ ฐานเศรษฐกิจว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้มีการประชุมวงเล็กเพื่อติดตามความคืบหน้า ในการจัดหา "วัคซีนโควิด" ของประเทศไทย 

 

โดยมีการประชุมที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เชิญ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย

นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

โดยเหตุผลของการเชิญการเข้าพบครั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ให้ติดตามความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนที่ต้องดำเนินการตามแผนและมติคณะรัฐมนตรี โดยพลเอกประยุทธ์ ได้มอบนโยบายผ่านเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ย้ำกับสถาบันวัคซีน รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องของความโปร่งใส ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย 

ส่วนที่มีกระแสข่าวอ้างว่า นายกรัฐมนตรี ให้เลขาธิการนายกฯเรียกประชุมครั้งนี้ เพราะจะมีการยกเลิการแถลงข่าวการจัดซื้อระหว่างสถาบันวัคซีนกับแอสตรา เซนเนกา เป็นเพราะนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำก้าวไกลออกมาจุดกระแสการจัดซื้อวัคซีนนั้นก็ไม่เเป็นความจริง โดยยืนยันว่านายกรัฐมนตรีต้องการสอบถามความคืบหน้าจากสถาบันวัคซีนเท่านั้น เพื่อนำไปรายงานความคืบหน้าให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยตรง

นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนการจัดหาวัคซีนจำนวน 2 ล้านโดสโดยเร็วและเร่งด่วน แบ่งเป็น ดังนี้


 1.    จำนวน 2 แสนโดสแรก นำเข้ามาในเดือนก.พ.2564 ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตามโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อนำไปฉีดเข็มแรกให้เจ้าหน้าที่ทำงานภาคสนามในพื้นที่ควบคุมสูงสุด เช่น จ.สมุทรสาคร ระยอง  ชลบุรี จันทบุรี และตราด จำนวนประมาณ  2 หมื่นคน และในกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อ มีภาวะแทรกซ้อนสูง และกลุ่มจำเป็นอื่นๆอีกประมาณ 1 แสน 8 หมื่นคนนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติครม.ถึงการจัดหาวัคซีนโควิด-19ให้คนไทย

 

2. ในเดือนมี.ค. 2564 จะได้วัคซีนอีก 8 แสนโดส ซึ่งจะฉีดเข็มที่สองให้กลุ่มที่ 1 จำนวน 2 แสนโดส ส่วนอีก 6 แสนโดสฉีดในกลุ่มจังหวัดที่ควบคุมสูงสุด ชายแดนภาคตะวันตก ภาคใต้และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆร่วมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และกลุ่มที่ติดเชื้อที่มีภาวะแทรกซ้อนสูงและกลุ่มจำเป็นอื่นๆอีกประมาณ 5 แสน 4 หมื่นคน   3. ในเดือนเม.ย.2564  จะได้วัคซีนเพิ่มอีก 1 ล้านโดส รวมเป็น 2 ล้านโดส โดยจะฉีดเข็มที่สองให้กับกลุ่มที่ได้รับวัคซีนในเดือนมี.ค. ประมาณ 6 แสนคน ส่วนอีก 4 แสนโดสจะฉีดให้กับบุคลากรอื่นๆเพิ่มเติม 

สำหรับประชาชน 1 คนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนจำนวน 2 โดส หลังจากนั้นประเทศไทยมีการจองซื้อวัคซีนรวมทั้งสิ้น 26 ล้านโดสไปแล้วจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งคาดว่าจะนำเข้ามาเพื่อให้คนไทยได้ใช้ประมาณกลางปี 2564  

 

นอกจากนี้ นายกฯอนุมัติเพิ่มเติมในการจัดหาซื้อวัคซีนอีก 35 ล้านโดส เพื่อให้คุ้มครองคนไทยอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด รวมเรามีวัคซีนทั้งหมด  63 ล้านโดส ที่ให้คนไทยใช้ได้ภายในปี 2564

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ภราดร ปริศนานันทกุล"จวก "ธนาธร" เลอะเทอะโยงวัคซีนพระราชทาน

ไฟไหม้ศูนย์ผลิต 'วัคซีนโควิด' ใหญ่สุดในโลกที่อินเดีย

"ซูเปอร์โพล" เผย ปชช.กว่า 96% จี้ "ธนาธร" เคลียร์ปมร้อน "แม่บุกรุกป่า-ภาษีเรือยอร์ช-ปลดพนักงาน"

วิบากกรรม 5 คดีอาญา‘ธนาธร’ ลุ้นคุกสูงสุด 48 ปี

"หมอยง" เผย วัคซีนโควิด ใช้จริงมีประสิทธิภาพต่ำกว่างานวิจัย