เซียนใหญ่เบื้องหลัง หุ้น AEC …กับคำถาม รุ่งหรือร่วง ????

08 มิ.ย. 2564 | 23:00 น.

เซียนใหญ่เบื้องหลัง หุ้น AEC …กับคำถาม รุ่งหรือร่วง ???? : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3686 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 10-12 มิ.ย.64 By…เจ๊เมาธ์

>> การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) กำลังเป็นที่นิยมของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) ที่เข้าไปเกาะกระแสนี้

ผู้นำรายแรกที่เข้าไปลงทุนอย่างเต็มตัวก็คือ BROOK ที่ประกาศตัวลงทุนใน บิตคอยน์” (BTC) ไปแล้ว ด้วยเงินลงทุน 200 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 1,500 ล้านบาท ในอนาคต

ต่อมาก็มี SIRI ทุ่มเงิน 2,000 ล้านบาท เข้าถือ เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล  (XPG ) หลังจากที่ XPG ได้รับใบอนุญาตในด้าน บริการซื้อขายโทเคนดิจิทัลเต็มรูปแบบ ผ่านบริษัท SE Digital (เอสอี ดิจิทัล) ในฐานะ ICO Portal ที่สามารถเสนอขายโทเคนดิจิทัล ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้แก่นักลงทุน

ล่าสุด  ORI จับมือกับ บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (Bitkub) รับชำระค่าซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียม ในเครือออริจิ้น ผ่านสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) 3 สกุล ได้แก่ อีเธอเรียม (ETH) เทเทอร์ (USDT) และ บิทคอยน์ (BTC) ซึ่งการรับเหรียญดิจิทัล (Cryptocurrency) เข้ามาในระบบได้ ก็หมายความว่า ORI ได้เข้ามาอยู่ในตลาดคริปโทฯ แล้ว เต็มตัวนั่นเอง

เจ๊เมาธ์เชื่อว่าด้วยกระแสที่กำลังร้อนแรง จะทำให้มีบริษัทในตลาดหุ้นอีกหลายบริษัทประกาศตัวว่า จะเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ซึ่งนักลงทุนควรต้องเตรียมตัวเอาไว้บ้างนะคะ มันไม่ต่างกับตอนที่มีกระแสเกี่ยวกับกัญชงกัญชา  จะมีทั้งของจริงและปลอม ถ้าจับกระแสทัน...มันก็ได้เงินนั่นแหละค่ะ

>> ราคาหุ้น AEC ปรับขึ้นมา 10 เท่า จาก 0.24-0.25 บาท ในเดือนมีนาคม พุ่งพรวดขึ้นมา  2 เกือบๆ 3 บาท ในปัจจุบัน เป็นการไล่ราคาขึ้นมาทั้งที่บริษัทยังมีสารพัดปัญหาค้างอยู่ ทั้งขาดทุนสะสมที่มีต่อเนื่องกันมาหลายปี, ปัญหาการถือหุ้นกู้ THAI จำนวนมาก ขณะที่ THAI อยู่ในขั้นตอนฟื้นฟูกิจการ...ซึ่งไม่รู้ว่าจะ ฟูเมื่อไหร่

ล่าสุด AEC เข้าลงทุน บริษัท ไทย สมายล์ บัส (TSB) ที่มีบริษัทในมือ 9 บริษัท ได้สัมปทานขนส่งผู้โดยสารรถประจำ  11 สายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล นัยว่าจะเป็นการหาแหล่งรายได้ใหม่ และเป็นการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ เรื่องนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ และหาก จริง มีใครบ้างที่จะรับรองได้ว่า AEC จะไปรอดหรือมีกำไรจริง

ล่าสุด นักเลง เอ้ย!!!! นักลงทุนมือบอน โหนกระแสหุ้น AEC กำลังร้อนแรง ร่อนข่าว Fake News หรือ ข่าวปลอม ว่ามีนักลงทุนระดับโคตรเซียน ทั้ง เสี่ยยักษ์ วิชัย วชิรพงศ์เสี่ยปู่ สมพงษ์ ชลคดีดํารงกุล หมอยง  ยรรยง พันธุ์วงษ์กล่อม เทคโอเวอร์ AEC ลงขันหมื่นกว่าล้าน แถมยังมีกระแสคุยกันเป็นตุเป็นตะว่า จะดึงอดีตซีอีโอใหญ่ พร้อม มาร์เก็ตติ้ง ระดับสุดยอดฝีมือจำนวน 400 คน เข้ามาพลิกฟื้น AEC กันอีกด้วย ให้เป็น บล.บียอนด์ (ชื่อใหม่)  ระดับโลก

โธ่ๆๆ ถ้าจะช่วย AEC จริงๆ ไม่ต้องใช้เงินเป็นหมื่นล้านก็ได้ เพราะแค่เอาชื่อเซียนใหญ่มาอ้างดันราคาหุ้นขึ้นมาได้ตั้งกว่า 10 เท่าแล้ว ถ้ามีเงินหมื่นล้านมาจริง...ราคาหุ้นจะไม่วิ่งทะลุไปถึง 20 บาท เลยเหรอค่ะ เจ๊เมาธ์บอกตรงๆ ว่าปล่อยข่าวดันราคาขึ้นมาได้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าใครได้อานิสงส์บ้าง อยากรู้จังว่าจะมีผู้ถือหุ้นอันดับไหนรวยกันน๊า อิอิอิ

ที่แน่ๆ เสี่ยยักษ์ ขึ้นเฟซ ตอกกลับข่าวมั่วนี้แล้ว ...ช่วงหนึ่งของคำบอกเล่า “ป๊าเป็นแค่ คนแก่”  ไม่มีความทะเยอทะยาน อย่าเชื่อข่าวลือที่ปล่อย ...คนมีศักดิ์ศรี เขาไม่ทำกันนะครับ “เจ็บแสบมั้ยค่ะ” คนปล่อยข่าวมั่ว ทีหลังอย่าคิดทำ

>> 7UP ราคาวิ่งแรงจนน่าตกใจ ถ้าจะถาม เจ๊เมาธ์ว่า มีสาเหตุอะไรที่ทำให้ราคาหุ้นมาไกลถึงขนาดนี้ เจ๊ก็บอกได้แค่ว่า ไม่มีอะไรที่เป็นสาระ นอกจากเกมส์ราคาหุ้น ถ้าหากจะว่ากันด้วยเรื่องของ เสี่ยกลาง สารัชถ์ รัตนาวะดี ตอนนี้เสี่ยกลางก็ปฏิเสธไปแล้วว่าไม่มีอะไร

หากนับถอยหลังลงไปอีกหน่อย จะเห็นว่าเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เข้ามาซื้อหุ้น  7UP ต่อเนื่อง มีหุ้น 7UP เป็น 491 ล้านหุ้น สัดส่วน 9.94% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2  ตามด้วย  รชต พุ่มพันธุ์ม่วง”  มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 3 ด้วยจำนวน 246.8 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.99%

ก็ไม่รู้ว่าการที่ตระกลู พุ่มพันธุ์ม่วง เข้ามาถือหุ้น จะเกี่ยวพันกับราคาหุ้น 7UP วิ่งแรงหรือเปล่า …เอาเป็นว่าเจ๊เมาธ์ เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้เกิดความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นใน 7UP ไปก็แล้วกันนะคะ ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็ประมาณว่า ของมันแรงเพราะ แบ็คมันดี เรื่องก็มีเท่านั้นเองค่ะ

>> นาทีนี้ ITD และ NWR กลายเป็นหุ้นรับเหมาที่ราคาหุ้นวิ่งแรงและโดดเด่น ล่าสุดข่าวว่ากิจการร่วมค้าระหว่าง ITD-NWR มีโอกาสเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 3 สัญญา

โดยสัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 103 กม. และก่อนหน้านี้กิจการร่วมค้า อิตาเลียนไทย-เนาวรัตน์ ซึ่งประกอบด้วย ITD และ NWR ได้ร่วมลงนามในสัญญาก่อสร้างกับการประปานครหลวง ในโครงการก่อสร้างอุโมงค์ส่งนํ้าตามแนวถนนราชพฤกษ์ จากคลองมหาสวัสดิ์ ถึง ถนนเพชรเกษม อย่างน้อยการจับคู่กันไปแบบนี้ มีโอกาสต่อรองและได้หายใจกันบ้าง ประมาณว่า รวมกันเราอยู่...แยกหมู่เราตาย ว่างั้นเจ้าค่ะ