TIDLOR ...คิดก่อนซื้อ!!!!  

23 เม.ย. 2564 | 00:30 น.

TIDLOR ...คิดก่อนซื้อ!!! : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3673 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 25-28 เม.ย.2564 By...เจ๊เมาธ์

@@@ คำถามที่ว่า “TIDLOR จอง...หรือไม่จองดี” กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันในวงกว้างบนโลกออนไลน์ การเปิดจอง 22-26 เม.ย.นี้ ยังมีเวลาให้คิดก่อนซื้ออีก 3-4 วัน ...วิธีการจองซื้อแบบ Small Lot First  ช่วงราคา 34-36.50 บาท จองขั้นต่ำ 1,000 หุ้น ใส่เงินจองเตรียมไว้ 36,500 บาท กระแสไอพีโอมาแรง เจ๊เมาธ์ เชื่อว่ายังงั๊ย ยังไง เงินติดจรวด ต้องขายราคาสูงสุด 36.50 บาท ...ไม่ยุ่งยากการคืนเงินทอน เงินเข้ากระเป๋าบริษัทเต็มๆ  ที่ชัดเจนแล้วตอนนี้คือ วันแรกที่เปิดจอง ผ่านเว็บไซต์แบงก์กสิกร เป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต ไปเลยทีเดียวค่ะ ...นักลงทุนโวยวายในความห่วยแตกค่ะ ...แต่เจ๊เมาธ์เข้าใจค่ะว่า เห่อจองพร้อมๆ กัน ก็ล่มเป็นธรรมดาค่ะ  

ส่วนคนที่อยู่ระหว่างติดสินใจ ไม่แน่ใจว่า ราคา 34-36.50 บาท แพงมั้ย !!! ถามเจ๊เมาธ์เข้ามา ...เจ๊ขอตอบตามหลักการหลายๆ ตัวไม่ว่าจะพี/อี , การทำกำไร สาขา รายได้ เทียบกันชัดๆ กับพี่ใหญ่วงการเงินกู้รายย่อยที่เป็นคู่แข่งสำคัญอย่าง MTC และ SAWAD   

1. TIDLOR มีสาขาจำนวน 1,76 สาขา น้อยที่สุดเทียบกับ MTC ที่มี 4,884 สาขา และ SAWAD ที่มี 4,750 สาขา

2. TIDLOR ปี 2563  มีรายได้ 10,558 ล้านบาท ใกล้เคียงกับ SAWAD ที่มี 10,993 ล้านบาท แต่ยังห่างจาก MTC ที่มีรายได้ถึง 14,733 ล้านบาท

3. TIDLOR มีความสามารถการทำกำไรที่ต่ำกว่า MTC และ SAWAD โดย TIDLOR มีกำไรสุทธิในปี 2563 จำนวน 2,146 ล้านบาท ขณะที่ SAWAD มีกำไรสุทธิ 4,508 ล้านบาท และทาง MTC มีกำไรสุทธิ 5,214 ล้านบาท 

4. TIDLOR มี P/E ที่ราคา IPO สูงกว่าเมื่อเทียบกับ MTC  และ SAWAD โดย MTC มีค่า P/E = 26.63 เท่า , SAWAD มีค่า P/E = 24.90 เท่า ขณะที่ TIDLOR มีค่า P/E สูงถึง 35.03 เท่า ที่ราคาขาย IPO (36.5 บาท) 

5. TIDLOR มีแผนจะขยายสาขาเพียงแค่ 500 สาขาใน 3 ปี แต่จะเน้นไปที่ Digital Platform แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทางคู่แข่งอย่าง MTC และ SAWAD จะอยู่เฉย เพราะคู่แข่งทั้งคู่ ต่างให้ความสำคัญและกำลังพัฒนา Digital Platform ของตนเองเช่นกัน ลองคิดเปรียบเทียบง่ายๆ ว่า ถ้ามีสาขาจำนวนมากกว่า...เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายกว่า มีฐานลูกค้าที่มากกว่า และยังใช้ Digital Platform เหมือนกันแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น

ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบข้อมมูลให้เห็นกันแบบนี้แล้ว ถ้าใครสนใจหุ้น IPO อย่าง TIDLOR ก็ต้องหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพิ่มเติมใหม่มากขึ้นนะคะ 

สำหรับเจ๊เมาธ์ มองว่าระยะสั้นอาจจะสนุกและทำกำไรจากราคาหุ้น IPO ตัวนี้ได้ แต่ในระยะยาว เจ๊เมาธ์ มองว่า ถ้าหากยังไม่รีบก็ใจเย็น ๆ รอดูหลังจากที่ TIDLOR เข้าตลาดดีกว่า ไม่แน่ว่าอาจจะได้ของราคาถูกกว่าราคาจองซื้อ IPO ก็เป็นได้ค่ะ 

@@@ ความร้อนแรงของเงินติดล้อ TIDLOR ถูกกล่าวถึง แม้กระทั่ง “เสี่ยร่างใหญ่” นักลงทุนระดับพอร์ตใกล้หมื่นล้านบาท ซื้อขายเดือนละหลายพันล้านบาท ที่ออกตัวว่าได้หุ้น TIDLOR ระดับ 1,000 หุ้น นั้น เจ๊เมาธ์ แอบได้ยินมาถึงขั้นว่า คงกินสตอเบอรี่เยอะจัด ...ถ้าพูดว่าไม่ได้หุ้นเลยจะดีเสียกว่า หากโบรกเกอร์ที่ซื้อขายหุ้น ไม่ได้ร่วมเป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้น TIDLOR แต่ถ้า “เสี่ยร่างใหญ่” เป็นลูกค้าโบรกเกอร์ที่ร่วมขายหุ้นตัวนี้ ด้วยวอลุ่มซื้อขายเดือนละหลายพันล้านบาท มีหรือที่โบรกเกอร์นั้นจะประเคนหุ้นใส่มือแค่หลัก 1,000 หุ้น ...อย่าเอาแค่พูดไปเรื่อยเปื่อย พูดอะไรทั้งทีให้สมกับภาพลักษณ์นักลงทุนรายใหญ่ วีไอ ด้วยค่ะ หรือถ้าไปพูดให้เด็กอมมือ ที่ไม่รู้เรื่องหุ้น น่าจะมีคนเชื่อนะค่ะท่าน  

@@@ หุ้นกลุ่มธนาคาร แจ้งกำไรไตรมาส 1/64 ออกมา ...แบงก์กสิกรไทย (KBANK) กำไรสุทธิ 10,627 ล้านบาท ลดลง 19.85% จากไตรมาส 4/2563 
ไทยพาณิชย์ (SCB) มีกำไรสุทธิ  10,088 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.0% ส่วนแบงก์กรุงเทพ (BBL) กำไรสุทธิ 6,923 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,525 ล้านบาท, ทหารไทย (TMB) กำไรสุทธิ 2,782 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125%  และแบงก์กรุงศรี ฯ (BAY) กำไรสุทธิ 6,505 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.2% หรือ 3,120 ล้านบาท  

ถึงจะไม่โดดเด่นนัก...แต่ก็สรุปได้ว่า ผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มธนาคารขยับตัวดีขึ้น เป็นแค่เรื่องของผลการดำเนินงานเท่านั้น ถ้ามองไปที่ในส่วนของราคาหุ้น เจ๊เมาธ์ ก็ต้องบอกว่า ราคาหุ้นได้ขยับตัวขึ้นมามากแล้ว ดังนั้นถ้าใครยังหวังว่าราคาหุ้นกลุ่มธนาคารจะขยับตัวในระยะเวลาอันสั้นนี้ ต้องทำใจนะคะ บอกได้แค่ว่า คงจะอยู่แถว ๆ นี้ไปอีกนานเลยค่ะ 

@@@ TTA PSL และ RCL หุ้นกลุ่มเดินเรือ กำลังเป็นที่จับตามอง หลังจากราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมามากกว่าเท่าตัว นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง TTA ซึ่งปรับราคาขึ้นมาถึง 2 เท่า เพราะความต้องการขนส่งฟื้นตัวจากจีนและอเมริกา แต่จำนวนเรือที่ให้บริการตึงตัว ทำให้ค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด BDI Index ขึ้นสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2553

แม้ว่าความต้องการเรือขนส่งสินค้า ที่ยังมีมากดันให้ค่าระวางเรือปรับตัว สูงขึ้น จนทำให้ปีนี้เป็นปีที่กำไร turnaround ก็ตามที แต่เจ๊เมาธ์  ขอเตือนเอาไว้ว่าตอนนี้ราคาหุ้นกลุ่มนี้ ขยับขึ้นมาไกลมากแล้ว โดย TTA และ PSL ระดับราคาสูงที่สุดรอบ 7 ปี ขณะที่ RCL ราคาหุ้นสูงที่สุด ดังนั้น ความเสี่ยงที่เกิดจากการเก็งกำไรหุ้นเดินเรือกลุ่มนี้จึงถือว่าสูงมาก...ด้องระวังการเทขายทำกำไรกันได้แล้วค่ะ  

@@@ นับตั้งแต่กระแสกัญชง-กัญชา แรงขึ้น ทำให้หุ้นตัวเล็กอย่าง KWM โดดเด่นตามกระแสขึ้นมาด้วยเช่นกัน ส่วนหนึ่งก็หนีไม่พ้นเรื่อง KWM กลายเป็นบริษัทเนื้อหอม ด้วยปัญญาประดิษฐ์ เครื่องสกัด บริษัทไทยรายแรกที่คิดค้นเครื่องสกัด ระบบ Supercritical Fluid Co2 Extraction  ...บริษัทผู้ผลิตยา-เครื่องสำอาง 3-4 ราย วิ่งเข้ามาคุย ถือเป็นโมเดลธุรกิจที่โดดเด่นของ KWM นอกจากธุรกิจเดิมการขายเครื่องจักรกลการเกษตร อย่างใบผาล ใบดันดิน ...แต่อีกเรื่องที่ยังไม่มีใครรู้หรือยังไม่ถูกพูดถึง นั่นก็คือ  ผลการดำเนินงาน KWM ที่กำลังจะประกาศออกมา รอบนี้เจ๊เมาธ์ได้ข่าวมาว่า เฉพาะไตรมาส 1/64 แค่เพียงไตรมาสเดียว กินไปเกือบครึ่งของทั้งปี 2563 นะค่ะ ส่วนจะดีจริงแค่ไหน ไม่นานเราคงได้รู้กันแล้วค่ะ