ความจริงเรื่องต่างชาติ แทรกแซงการเมืองไทย

          เรื่องต่างชาติแทรกแซงการเมืองไทย แอบหนุนหลัง "ม็อบ 3 นิ้ว" มุ่งโจมตีและหวังทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยเจตนาที่จะก่อให้เกิดเหตุความวุ่นวาย และใช้เด็กเป็นเหยื่อทำให้สังคมไทยแตกแยกนั้น เป็นเรื่องที่อยู่ในความสงสัย เป็นที่เฝ้าจับตามองของคนไทยผู้รักชาติมาโดยตลอด รวมถึงข้อสงสัยว่าใครบ้างอยู่เบื้องหลังชักใยเด็กเหล่านี้ นับแต่เกิดม็อบและการชุมของ "กลุ่มเยาวชนปลดแอก" หรือในนาม "กลุ่มคณะราษฎร 2563" 

          ในกลุ่มผู้ชุมนุมเองก็มิได้ออกมาปฎิเสธ หรือโต้แย้งชี้แจงในเรื่องนี้ คงมีแต่พวกนักการเมืองฝ่ายค้าน หรือ อดีตพวกแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญพิพากษายุบพรรคไปแล้ว กับพวกนักวิชาการต่อต้านสถาบันกษัตริย์ ที่แอบอยู่ข้างหลังเด็กเท่านั้น ที่พยายามออกมาแก้ตัวและเถียงคอเป็นเอ็น กลบเกลื่อนความจริงว่า ความเคลื่อนไหวทุกอย่างเป็นความคิดอิสระของเด็กเอง อันเป็นความพยายามจะปิดฟ้าด้วยฝ่ามือแก้ตัวไปแบบน้ำขุ่นๆ ประหนึ่งว่าคนไทยส่วนใหญ่คงโง่เขลารู้ไม่เท่าทัน 

          ในที่สุดความจริงเรื่องต่างชาติ เข้ามาแทรกแซงปั่นป่วนปัญหาการเมืองภายในประเทศไทย ก็ได้ค่อยๆ ถูกเปิดเผยความจริงออกมา ซึ่งในเบื้องแรกต้องขอชมเชย ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ที่ได้นำเสนอผลสำรวจภาคสนามเรื่อง "ต่างชาติ ทำไทยแตกแยก" โดยใช้กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Quanlitative Research) จำนวน 1,287 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 20-31 ตุลาคม 2563 อันเป็นผลงานวิจัยตามหลักวิชาการที่เชื่อถือได้ นำมารายงานแบบสดๆ ทันต่อสถานการณ์ 

          งานวิจัยนี้มีความสำคัญและสอดคล้องกับปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองของไทย และหากพี่น้องคนไทยได้ตระหนักรู้ในเรื่องนี้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองอย่างยิ่ง จึงขอคัดเอาผลการศึกษาวิจัยที่ได้แถลงไว้ต่อสื่อและสาธารณะเฉพาะที่สำคัญๆ มาเสนอดังนี้ 

          ร้อยละ 83.3 ลังเลไม่แน่ใจว่า รัฐบาลต่างชาติมหามิตรประเทศไทยมีส่วนร่วมสนับสนุนม็อบ 3 นิ้วหรือไม่ ร้อยละ 86.2 เชื่อว่า รัฐบาลต่างชาติมหามิตรประเทศไทย สามารถช่วยควบคุม กำกับทิศทางให้องค์กรต่างชาติต่างๆสนับสนุนม็อบ 3 นิ้ว ให้คนไทยจงรักภักดีไม่แตกแยกได้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 88.9 ระบุคนไทยทุกคนควรช่วยจับตาต่างชาติเคลื่อนไหวทำม็อบ 3 นิ้ว ของเด็กและเยาวชน ตกเป็นเหยื่อให้คนไทยแตกแยกรุนแรงบานปลาย 

          ผอ.ซุปเปอร์โพล ยังได้แถลงให้ทราบอีกว่า ที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มคนไทยต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังหนุนม็อบ 3 นิ้ว พบความเชื่อมโยงของกลุ่มต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังหนุนม็อบ ได้แก่ ร้อยละ 89.6 นักการเมืองไทย, ร้อยละ 88.4 นักธุรกิจ นักลงทุน, ร้อยละ 87.4 ระบุนักวิชาการ, ร้อยละ 87.0 สื่อมวลชน, ร้อยละ 84.2 องค์กรต่างชาติ, ร้อยละ 83.9 ระบุบริษัทโซเชียลมีเดียต่างชาติ, ร้อยละ 83.0 ระบุ NGO และร้อยละ 80.3 ระบุรัฐบาลต่างชาติที่ไม่ใช่มหามิตรประเทศไทย 

          จากผลการศึกษาวิจัยดังกล่าว ทำให้เห็นการเชื่อมโยงของกลุ่มต่างๆ ที่หนุนหลังม็อบครบถ้วน และมีความชัดเจนว่า มีขบวนการปั่นกระแส ยุยงให้คนไทยทำลายเสาหลักของชาติ ทำลายบ้านเมืองของตนเองจนประเทศพังพินาศ เปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเมืองในประเทศไทย เหมือนกับที่ทำกับประเทศอื่นๆ โดยใช้ข้อมูลในโลกโซเชียลเป็นอาวุธ ทำลายความรักความสามัคคีของคนในชาติ นี่คือข้อเท็จจริงที่ได้จากผลการศึกษาวิจัย ที่พี่น้องไทยพึงต้องตระหนักรู้ร่วมกัน 

          ข้อเท็จจริงดังกล่าว สอดคล้องกับที่นักข่าวต่างประเทศท่านหนึ่ง ซึ่งได้รายงานข่าวจากเหตุการณ์ที่พสกนิกรชาวไทย ที่พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง และสีชมพู เฝ้ารับเสด็จในหลวงและพระราชินี ที่บริเวณศาลหลักเมืองถึงประตูวิเศษชัยศรี บริเวณพระบรมมหาราชวัง ที่เสด็จฯ ไปทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เพื่อทรงเครื่องฤดูหนาว  

          โดยนักข่าวต่างประเทศท่านนี้ ได้รายงานถึงความรู้สึกที่พสกนิกรชาวไทยแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย อย่างเข้าใจที่ลึกซึ้งว่า ปวงชนชาวไทยเหล่านั้น มิได้เพียงแต่แสดงออกถึงความจงรักภักดีพระมหากษัตริย์เท่านั้น แต่คนไทยต้องการแสดงออกถึงความภาคภูมิใจต่อความเป็นชาติ และ วัฒนธรรม ที่สืบเนื่องมายาวนานนับร้อยๆ ปีของตน 

          รวมถึงการปกป้องสถาบันกษัตริย์ ที่มีส่วนสำคัญในการทำให้ประเทศไทย ไม่ตกเป็นอาณานิคมของต่างชาติเหมือนประเทศอื่นๆ และพวกเขาต้องการออกมาปกป้องสถาบันกษัตริย์ ที่เป็นเสาหลักและศูนย์รวมพลังของชาติ ที่กำลังถูกต่างชาติบางประเทศคิดทำลาย เพราะคิดว่าหากจะทำลายประเทศไทย ก็ต้องทำลายจุดแข็งที่สุดของประเทศ นั่นคือ สถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เป็นเสาหลักยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย ซึ่งคนที่คิดเช่นนั้นคงไม่เข้าใจว่า คนไทยจะไม่ยอมให้ใครมาเปลี่ยนแปลงประเทศของเขา ไปตามอุดมการณ์และลัทธิการเมืองใดได้โดยง่าย     

          นอกจากที่กล่าวแล้ว ยังมีนักข่าวต่างประเทศอีกหลายท่าน ที่ได้รายงานและนำเสนอข่าว เปิดโปงสหรัฐฯ และตะวันตกว่าเป็นผู้รุกราน ก่อการร้าย ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่มีพฤติกรรมกระทำตนเป็นนักล่าอาณานิคมสมัยใหม่ เช่น อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ ผู้ใช้นามปากกาว่า “โทนี คาร์ตาลัคซี” เป็นต้น จะให้ชัดเจนชัดแจ้งมีข้อมูลที่หนักแน่น ก็ต้องฟังเรื่องเหล่านี้ประกอบกับรายการ สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง ที่ออกมาชำแหละข้อเสนอปฏิรูป 10 ข้อ ของผู้ชุมนุม กับเรื่องต่างชาติที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุม ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอาจารย์สายต่อต้านสถาบัน 

          ถึงวันนี้ จึงเชื่อได้ว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่ม หรือ คณะบุคคล ที่กำลังขับเคลื่อนสร้างความปั่นป่วนในประเทศไทยขณะนี้ มีกลุ่มและขบวนการหรือองค์กรต่างชาติ เข้ามาเกี่ยวข้องสนับสนุน หนุนหลังอย่างแน่นอน มิใช่การเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยโดยสุจริต คนไทยผู้รักชาติทั้งหลายจึงต้องสามัคคีกัน เราต้องตื่นตัวและตระหนักรู้ร่วมกันถึงภยันตรายที่กำลังคุกคามประเทศไทย  

          เราต้องปลุกสำนึกพี่น้องไทยให้รักชาติ รักประเทศและรักพี่น้องประชาชนไทยด้วยกัน เราต้องสามัคคีกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นเสาหลักของชาติ และศูนย์รวมพลังของชาวไทยทั้งแผ่นดิน มิให้ใครคิดมาทำลายได้ 

          คนไทยต้องสามัคคีกันปกป้องชาติ ไม่ตกเป็นเครื่องมือ หรือเหยื่อให้ต่างชาติ มาทำให้คนไทยต้องแตกแยกกันโดยเด็ดขาด นี่คือหน้าที่ของพวกเราคนไทย หัวใจรักชาติ