ฆ่าโหดกุชชี่ คดี 3 นัดสังหาร ตอน 2

22 ส.ค. 2563 | 00:45 น.

ภาษิตว่า รากฐานแท้จริงทางการทูต คือความสัมพันธ์ของคน นั้นท่าจะเปนจริง

การนัดหมายพบปะผ่านเส้นสนกลในนั้นถือว่าจำเปนแต่ยังไม่เพียงพอ คนทำดีลซื้อขายธุรกิจการเขามักจะดูเฆมี_chemistry ว่าสองฝ่ายจะไปกันได้รึเปล่า เพราะหนทางนั้นอีกยาวไกล นิสัยใจคอและสไตล์การบริหารจัดการจึงเปนองค์ประกอบสำคัญ กอล์ฟก็เปนกีฬาเกมส์ชนิดหนึ่งซึ่งเปนกลวัดคนในสถานการณ์ดังนี้ ซึ่งจะพักไว้ไปเล่าในโอกาสต่อไป

เมาริตซิโอกับผ้าผูกคอกุชชี่

แอนเดรีย โมรันเต้

แอนเดรีย โมรันเต้ เปนลูกนายพลอิตาลี เรียนในอเมริกาแล้วไปเปน วาณิชธนากรของ มอร์แกน สแตนลี่ย์ในลอนดอน เปนคนทำดีลขอซื้อกิจการยางรถยนต์ไฟร์สโตนให้พีเรลลี่ของอิตาลี่มาก่อน เมื่อรับการติดต่อจากคนกลางที่เอาเครดิตตัวเองค้ำประกันเมาริตซิโอแล้ว จึงบินข้ามไปพบเขาที่มิลาน

ด้วยมารยาทการค้าเมาริตซิโอก็ออกมายืนรอรับที่หน้าประตูสำนักงานกุชชี่อย่างเอาใจ ในขณะที่โมรันเต้ให้เกียรติผู้ที่เขามาพบด้วยสูททั้งสุด และผูกเนคไทแอร์เมส อันเปน status quo ของผู้คนในวงค้ากิจการลานหุ้น

พลันเมาริตซิโอ้ ก็ทำแววตาระยิบขี้เล่น เอ่ยคำทักทายว่า “ผม เมาริตซิโอ้ กุชชี่เองครับ ยินดีที่ได้พบคุณครับ มร.โมรันเต้_ถึงแม้ว่าเนคไทที่คุณผูกอยู่นี่จะผิดยี่ห้อไปหน่อยก็ตาม” เพียงเท่านี้วาณิชธนากรเชื้อสายอิตาเลี่ยนก็ระเบิดเสียงหัวเราะก้ากออกมาโดยกลั้นไม่อยู่ วาจาหยอกเอินแบบนี้ทำให้สองฝ่ายรู้สึกเปนกันเองมากขึ้น พร้อมที่จะร่วมงานกันต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฆ่าโหดกุชชี่ คดี 3 นัดสังหารกลางเมืองมิลาน ตอน 1

การณ์ก็เปนไปดังที่วางแผน ระหว่างนั้นมีการขย่มขวัญกันไปมาด้วยการฟ้องคดีถือหุ้นมิชอบบ้าง ขุดเรื่องใต้พรมออกมาแจ้งสรรพากรและตำรวจบ้าง ยาวไป ยาวไปจนเมาริตซิโอต้องหนีหมายจับออกไปอยู่สวิตเซอร์แลนด์ ยาวไปจนลุงอัลโด้ต้องติดคุกในวัย 80 (ซึ่งอันนี้เปนสูตรสำเร็จของการบีบให้ขายหุ้น)

ซึ่งสุดท้ายมอร์แกน สแตนลี่ย์ได้เงินจากผู้ลงทุนชาวตะวันออกกลางเข้าซื้อหุ้นของฝ่ายลุงอัลโด้ไว้ได้หมดเพื่อรอวันขายให้กับฝ่ายเมาริตซิโอ้ และท้ายแล้วกลับเปนเมาริตซิโอ้เอง ที่เปนฝ่ายขายหุ้นของตัวทั้งหมดแก่นายทุนตะวันออกกลางผู้ซึ่งกลายมาเปนเจ้าของแบรนด์กุชชี่อย่างสมบูรณ์แบบ!!

ตำรวจคุมตัวปราติเซีย

หมดนี้เปนเรื่องราวก่อนการฆาตกรรมจะมาถึง ข้างตำรวจอิตาลี่ก็คลำคดีหาฆาตกรไปในดงโลหิตฝ่ายกิจการนี้ โดยสืบเสาะหาเเรงจูงใจจากความแค้นเคืองในการหักเหลี่ยมทางธุรกิจและคดีอีรุงตุงนังฟ้องกันไปมาระหว่างคนในครอบครัวกุชชี่

หาได้ระเเคะระคายไม่ ว่าจำเนียรกาลผ่านไปในดงธุรกิจ ข้างนอกนั้นเมาริตซิโอ้ก็มีรักใหม่เข้ามาพาให้รักเก่าจืดจาง คู่ตุนาหงันเมาริตซิโอ้_ปราติเซีย ผู้เคยเสพสุขสำราญกันบนเรือยอชท์คลีโอนั้น คราวถึงวันแยกทาง เมาริตซิโอ้ก็ยกเรือรักลำนี้ให้ปราติเซีย ผู้ออกอาการคลุ้มคลั่งหนักหน่วงจากอนุสรณ์ความรักที่เคยร่วมคู่_บัดนี้เหลืออยู่ลำพัง

ผ่านไปสามปีจากกรณีเสียงปืนลั่น ตำรวจพร้อมผู้ซัดทอดจึงเข้าจับกุม ปราติเซีย กุชชี่ แม่ม่าย ในคดีจ้างวานฆ่า (อดีต) สามี โดยมีคำให้การในชั้นศาลสารภาพถึงเหตุจูงใจว่านอกจากความแค้นเคืองไปมีใหม่ทั้งที่ได้ร่วมฟันฝ่ามหากิจการยุ่งเหยิงกันมาแล้วไซร้ เงินขายหุ้นทั้งหลายยังเอาไปหมด บ้านช่องห้องหอก็ยกให้เมียใหม่กับลูกติดที่ ณ วันนั้นย้ายเข้ามาอยู่แล้วแต่ยังไม่ทันจดทะเบียนสมรส

เรือรัก

ปราติเซียในระยะเวลาฆาตกรรม และปราติเซีย ยามออกจากคุก

เธอจำจะต้องฆ่าทิ้งเสีย เพื่อมรดกผู้ตายจะได้ตกแก่ลูกสาวสองคนของตัว ทั้งสอง และใช้สิทธิขับไล่เมียใหม่ของพ่อออกไปจากบ้าน!หรือจะเปนอาถรรพ์เรือรัก เรือหลอนลำนั้น?!?

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,603 วันที่ 23 - 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563