Facebook ราช รามัญ
เรื่องของความสำเร็จ ผู้คนในยุคนี้วัดผลลัพธ์กันที่เรื่องของเงินและวัตถุภายนอกเพียงอย่างเดียว เพราะเป็นสิ่งเดียวที่มองเห็นและสัมผัสได้ด้วยสายตา แต่ในหลักของพุทธศาสนาในด้านจิตวิญญาณนั้นก็เป็นอีกดัชนีชี้วัดถึงความสำเร็จด้วยเช่นกัน
เพราะคำว่า ความสำเร็จ หาใช่จะมองกันเพียงแค่เรื่องของวัตถุภายนอกเพียงอย่างเดียวจะต้องมองในเรื่องของความคิดและจิตใจเป็นองค์ประกอบด้วย
เรื่องจิตใจมองอย่างไร เกี่ยวกับจิตใจนั้นพระท่านว่า ให้มองที่วิธีคิด เพราะวิธีคิดนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นมาถึงพฤติกรรม และพฤติกรรมนี้จะเชื่อมโยงมาถึงนิสัย และนิสัยจะบ่งบอกถึงความเป็นจริงของความเป็นตัวบุคคลนั้นว่าเป็นคนอย่างไร
เมื่อเห็นใครที่มีวัตถุอุดมสมบูรณ์แล้วเราอย่าเพิ่งหลงดีใจว่าเขาเป็นคนที่สำเร็จ อีกฐานหนึ่งคือ เรื่องของจิตใจ เราจะต้องดูด้วย ว่าเขามีจิตใจเป็นอย่างไร เพราะความสำเร็จอย่างแท้จริงจะต้องมีครบทั้งสองฝ่าย คือ ฝ่ายโลกและฝ่ายวิญญาณ
จะมีเพียงแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้...คนที่มีแต่วัตถุแต่จิตใจยังไม่พร้อม อันนั้นเรียกว่า ยังไม่สำเร็จจริง หรือ คนที่มีแต่ฝ่ายจิตวิญญาณเติบโตแต่ทางฝ่ายโลกยังไม่สมบูรณ์ยังต้องเลี้ยงลูก หาเงิน แบบลำบากมีหนี้มากแบบนี้ก็ไม่อาจที่จะเรียกได้ว่า สำเร็จได้เช่นกัน
พูดง่ายๆว่า อย่าสุดโต่งกับชีวิต อย่าเลือกเพียงแค่ด้านใดด้านหนึ่ง หรือ อย่ามองเพียงมุมใดมุมหนึ่งเท่านั้น
พ่อค้าในครั้งพุทธกาล อย่างนายสุทัตตะ ร่ำรวยทั้งทางโลกและทางด้านจิตวิญญาณ ดูแลพระสงฆ์เป็นอย่างดี และทำการค้าก็ทำด้วยคุณธรรม แบบนี้จึงควรเป็นแบบอย่างของคนสำเร็จอย่างแท้จริง สุทัตตะได้อธิษฐานกับพระพุทธเจ้าเอาไว้ว่า... ขอให้ตนมีทรัพย์ ขอให้มียศ ขอให้อายุยืน ขอให้ตายแล้วไปสุคติสวรรค์ นี่คือ เป้าหมายของความสำเร็จ
พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า เธอจะได้ในสิ่งนี้ที่เรียกว่าได้ยากของมนุษย์ด้วยการทำดังนี้ จงถึงพร้อมด้วยความเชื่อ จงถึงพร้อมด้วยความศีล จงถึงพร้อมด้วยการบริจาค (การให้) จงถึงพร้อมด้วยปัญญา คำว่า ปัญญาในที่นี้แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ทางโลก มีปัญญาในการทำมาหากินที่สุจริตมีคุณธรรม ปัญญาที่สอง คือ ปัญญาในฝ่ายจิตวิญญาณ ได้แก่ การรู้ทันภาวะอารมณ์ของตนเองเสมอ โกรธก็รู้ทันว่าโกรธอยู่ การรู้เท่าทันอารมณ์นี้เองที่เรียกว่า ปัญญา ของคนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆที่พึงควรปฏิบัติยิ่งครับ