วิกฤติแอร์ไลน์ จ่อปากเหว... Cash Flow ร่อแร่

12 มี.ค. 2563 | 05:05 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจราย ฉบับที่ 3,556 ระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคม 2563 โดย...พริกกะเหรี่ยง

 

          ....เศรษฐกิจโลกสะเทือนหนัก เมื่อคนทั้งโลกแทบจะยุติกิจกรรมต่างๆ หลังตัวเลขการแพร่กระจาย “ไวรัส” ไปยังยุโรป และสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่องและเพิ่มจำนวนอย่างน่าตกใจ ส่วนคนไทยต่างหวาดผวากับบรรดา “ผีน้อย” ที่บินกลับจากเกาหลี ถึงเมืองไทยก็ออกไปตระเวน ไปกิน-ช็อป ตามร้านอาหาร ศูนย์การค้า โรงแรมในหลายพื้นที่ ทั้งที่ต้องถูกกักตัวอยู่บ้าน 14 วัน

          ....แต่คนเหล่านี้กลับไม่รับผิดชอบต่อสังคม ส่วนอีกพวกก็กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง แทนที่จะกักตัวอยู่กลับบ้าน 14 วันก็ออกไปเดินฉุยฉายตามศูนย์การค้า ใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่าง “ไร้สำนึก” ผลที่ตามมาทำเอาร้านค้าต้องปิดพ่นฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อกันจ้าละหวั่น เวลานี้คนเข้าห้าง ไปร้านอาหาร ก็หดหายไปทุกวันอยู่แล้ว อย่า “ซ้ำเติม” กันอีกเลย ช่วยรับผิดชอบต่อสังคมกันหน่อย

          
....เพราะถ้าเชื้อแพร่ระบาดคนที่ลำบากมากที่สุดก็คือทีม แพทย์-พยาบาล คนทำงาน ร.พ. ขณะนี้ทำงานกันอย่างหนักมาก น่าเห็นใจ แถมอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือก็ขาดแคลน แม้กระทั่ง “หน้ากาก” หลายร.พ.ต้องออกมาขอบริจาค ซึ่งน่าอนาถใจยิ่งกว่าเมื่อคนที่กักตุนเป็นคนของรัฐและคนใกล้ชิดนักการเมือง ส่วนรัฐบาลก็ป่าวประกาศปาวๆ ว่าไม่ขาดแคลน แต่ชาวบ้านหาซื้อไม่ได้ เรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ เรื่องอื่นประชาชนจะหวังพึ่งพาได้อย่างไร ยิ่งในยามวิกฤติแบบนี้

          ....อีกประเด็นที่สังคมตั้งคำถามกันหนัก! ว่าคนไทยที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัว แต่ทำไมนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยง จึงไม่ถูกกักตัว แค่สแกนตรวจวัดไข้ คัดกรองที่สนามบินเท่านั้นเพียงพอแล้วหรือ? เป็นคำถามดังๆ ที่ฝากไปยังผู้เกี่ยวข้อง

          ....พิษโควิด-19 ทำ Flybe สายการบินของอังกฤษประกาศปิดกิจการพนักงาน 2 พันคนตกงาน “เซ่น” มหันตภัยไวรัสเป็นทางการรายแรก ขณะที่สายการบินอื่นๆ ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกับยืนอยู่บน “ปากเหว” หนทางรอดกับดิ่งเหวพอๆ กันหลายสายการบินพยายาม “กลืนเลือด” กัดฟันที่จะเก็บพนักงานเอาไว้ หากไม่ถึงที่สุดก็คงไม่มีการปลดพนักงาน  

​​​​​​​          
....แต่ปัญหา “จุกอก” คือ ผู้โดยสารบุ๊กกิ้งใหม่แทบจะเป็น “ศูนย์” ส่วนที่จองไว้แล้ว ก็ยกเลิกและเลื่อนเดินทาง ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 50% รายได้ใหม่ไม่มี แถมยังต้องควักเงินจ่ายคืนค่าตั๋วแก่ผู้โดยสารที่ยกเลิก การเดินทางเกือบทั้งหมด “ยิ่งทุบ” กระแสเงินสดที่ต่ำเตี้ยเรี่ยติดดินอยู่แล้วให้สาหัสเข้าไปใหญ่  แอร์ไลน์โลว์คอสต์ -ไม่โลว์คอสต์จึงใช้วิธีหั่นเงินเดือนผู้บริหารก่อน พร้อมขอความร่วมมือลางานโดยไม่รับเงินเดือน อีกหนทางก็เจรจากับรัฐและทอท.-ทย.และวิทยุการบินขอลดค่าบริการ ทย.ใจป้ำจ่อลดค่าเช่าพื้นที่ และขึ้น-ลงอากาศยาน 50% ส่วนลานจอดลดให้ 90% ใน 28 สนามบินที่อยู่ในอาณัติ

          ....แต่สนามบินหลัก 6 แห่ง เป็นหน้าที่ของ ทอท. ส่วนแพ็กเกจใหญ่ที่ 17 แอร์ไลน์ของไทยจึงเสนอให้ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ช่วยเยียวยาอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดไปถึงครึ่งปีหลังเพราะแอร์ไลน์ภูมิภาคเอเชียกระทบหนักสุด โดยเฉพาะสายการบินที่มีเที่ยวบินเข้าจีนเป็นจำนวนมากๆ ก็เจ็บตัวหนัก อย่าง ไทยแอร์เอเชีย

          
....อีกทั้งการ “ลดราคา” ณ นาที นี้ไม่ได้ช่วยให้แอร์ไลน์ฝ่าวิกฤติ ในเมื่อ “ราคา” ไม่ใช่ปัจจัยให้คนเดินทาง แต่ “ไม่กล้า” เดินทางต่างหาก บริษัทนำเที่ยวไทย ยกเลิกการขายทัวร์ทั้งหมด “ชัตดาวน์” ประเทศไทย รอว่าเมื่อไร ไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 จะสงบ ผู้คนจึงเก็บเนื้อเก็บตัว ใช้จ่ายอย่างประหยัด ไม่ลงทุน ไม่เดินทาง !