ชาวโลกผวา! พิษโคโรนาทุบซ้ำศก. หากเกิน3เดือน

01 ก.พ. 2563 | 23:00 น.

 

การแพร่ระบาดของ “ไวรัสโคโรนา” หรือไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่มียอดผู้เสียชีวิตและติดเชื้อพุ่งต่อเนื่องในขณะนี้ กำลังเป็นวาระแห่งโลกที่ชาวโลกต้องหวาดผวา!

หลายประเทศพยายามควบคุม และป้องกันไม่ให้เชื้อโรคนี้ระบาดภายในประเทศตัวเอง และป้องกันไม่ให้ผู้ติดเชื้อมาแพร่เชื้อต่อ ขณะเดียวกันบางประเทศต้องใช้มาตรการยาแรงเข้มข้น ออกมาประกาศไม่ออกวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศ และใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดสั่งปรับ ใครก็ตามที่ปกปิดอาการป่วยของตัวเอง หรือใครก็ตามสงสัยว่าติดเชื้อและปกปิดจะถูกปรับเป็นเงินจำนวนมาก

ที่สำคัญเงินที่สะพัดในระบบเศรษฐกิจจะลดลงเพราะหลายประเทศต่างขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยขาข้างหนึ่งพึ่งพาภาคท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับหลายอุตสาหกรรม ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก รวมถึงการให้บริการภาคขนส่ง ต่างกระทบไปหมด โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนจะกระทบมากในระยะสั้น เนื่องจากเป็นเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมมาเที่ยว

ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจเริ่มทยอยออกมาประกาศปรับเป้าตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ออกมาปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงเหลือ 2.8% จากเดิมคาดจะขยายตัวได้ 3.3% จากการระบาดของไวรัสโคโรนา ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางมาไทยหายไป 2 ล้านคนในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้

ก่อนหน้านั้นนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่าผลกระทบการระบาดของไวรัสโคโรนา ในส่วนของผลกระทบที่มีต่อประเทศไทยมีทั้งทางตรงและอ้อม การส่งออกไปตลาดสำคัญอย่างจีนติดลบก็จะส่งผลต่อจีดีพีของไทย 0.5 - 0.7% และเชื่อว่าในปีนี้เศรษฐกิจไทยจะไม่โดดเด่นมากนัก

เมื่อจีดีพีของโลกชะลอตัวลงก็จะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในส่วนของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะหายไปจากไทย โดยปกตินักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยปีละประมาณ 10 ล้านคน หรือเดือนละ 9 แสน- 1 ล้านคน ทำให้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนหายไปจากไทยประมาณ 2 ล้านคน รวมทั้งความเสียหายจากภาคการท่องเที่ยวคาดว่าจะประมาณ 8 หมื่น- 1 แสนล้านบาท แต่หากจีนและทั่วโลกสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เร็วขึ้นก็อาจเสียหายประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

ชาวโลกผวา!  พิษโคโรนาทุบซ้ำศก.  หากเกิน3เดือน

 

นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธาน งานเศรษฐกิจและงานวิชาการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)มองว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาได้รับผลกระทบในระยะสั้นโดยเฉพาะตลาดท่องเที่ยวไทยที่นักท่องเที่ยวจีนลดลง กระทบโดยตรงต่อสินค้าที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจีน ทั้งสินค้าเกษตร อาหาร เครื่องสำอางที่จำหน่ายภายในประเทศตามแหล่งท่องเที่ยว ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ก็เริ่มได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงานที่เมืองอู่ฮั่นโดยเฉพาะการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ประกอบภายในรถยนต์

นอกจากนี้ยังมีเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการสมาชิกในส.อ.ท. ต่างกล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่าถ้าพิษไวรัสโคโรนาลากยาวเกิน 3 เดือน กระทบภาพรวมเศรษฐกิจแน่นอน โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกปี 2563 นับเป็นสัญญาณลบที่เริ่มต้นไม่ดีในปีนี้ และเชื่อว่าทุกภาคส่วนจะต้องออกแรงโหมโรงปลุกเศรษฐกิจกันทุกด้าน

ปัจจุบันเศรษฐกิจจีนมีความสำคัญและมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก เมื่อจีนได้รับผลกระทบเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วยเพราะพึ่งพาตลาดจีนที่มีกำลังซื้อสูงเรียกว่า เมื่อจีน “ไอ” ประเทศที่เกี่ยวข้องทางการค้าการลงทุนก็ต้องเกิดอาการ “จาม” ตามกันเป็นทอดๆ

สำหรับประเทศไทยอาจจะหนักกว่าใคร เพราะปัญหาที่แบกอยู่ยังเป็นปัจจัยลบเก่า ทั้งผลกระทบจากบาทแข็งค่าที่สุดในภูมิภาค เทรดวอร์จีน-สหรัฐฯ ปัญหาภัยแล้ง เงินงบประมาณปี 2563 ล่าช้า ล้วนเป็นปัญหาที่หนักหน่วงอยู่แล้ว ก็มาถูกซํ้าเติมด้วยพิษไวรัสโคโรนาอีก ทุบเศรษฐกิจปี 2563 เต็มๆ หากยืดเยื้อนานเกิน 3 เดือน

คอลัมน์ : Let Me Think
โดย      : TATA007

หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,545 วันที่ 2 - 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563