Corrida de toros วิธีดูมหรสพสู้วัวกระทิง
ข่าวเศรษฐกิจ อัพเดทข่าววันนี้ ราคาทอง น้ำมัน ข่าวตลาดหุ้น การเงิน ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ การตลาด เจาะลึกแบบตรงประเด็น | ฐานเศรษฐกิจ
มาวันนี้จะกล่าวถึงมหรสพแบบถึงเลือดถึงเนื้อต้องเข้าชมในสนาม อย่างการสู้วัวกระทิงในสเปน อันว่าวิธีการดูมหรสพนี้สำคัญ ถ้าว่าดูหนัง_ภาพยนตร์ เขาว่าก่อนจะดูต้องไม่ให้รู้เรื่องราว รู้แล้วหมดสนุก แต่ถ้าว่าดูโขน_ดูบัลเล่ต์ ต้องรู้เรื่องรู้ราวมาก่อน ถึงจะดูสนุก ด้วยเขามาดูนาฏะ ท่ารำ ไม่ได้มาดูเอาเรื่อง ส่วนวิชาดูการสู้วัวกระทิงนี้ เขาเอ็นจอยกันอย่างไรเลือดกบเลือดอาบกันเชียว ก็สมควรเกริ่นไว้ก่อนว่างานสู้วัวกระทิงนี้ควรนับเปนมหรสพ_ไม่ใช่กีฬา
มันจะเริ่มจากว่า เจ้าหน้าที่สนามใส่ชุดโบราณหมวกขนนกนำขบวน มาธาดอร์_นักฆ่ากระทิงเข้ามา ตามหลังด้วยผู้ช่วยสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเรียก นักทวน (พิกาดอร์) มีหน้าที่ขี่ม้าไปแทงกระทิง อีกฝ่ายเรียก นักปฏัก (bandrilleros) มีหน้าที่ เดินไปทิ่มกระทิง พร้อมด้วยลูกมือและตัวฬ่อ(สัตว์ผสมจากพ่อเปนลาแม่เปนม้า) มีหน้าที่เก็บกวาดลากศพ_ซึ่งโดยมากเปนศพกระทิงมากกว่าศพคน
หัวหน้าคณะปราบกระทิงนี้เขาจะแต่งกายสุดฤทธิเดช สวมกั๊กสีปักดิ้นดอกไม้ทอง กางเกงรัดเข่า หมวกบางแนบหัว เสื้อคลุมสะพายแล่ง ถึงเวลาอันเปนมงคลฤกษ์ประธานในพิธีโยนกุญแจคอกกระทิงให้เจ้าพนักงาน คว้ารับแล้ววิ่งม้าไปไขคอก ปล่อยกระทิงสู่สนาม
คณะของมาธาดอร์เห็นกระทิงเผ่นโผนมาดังนั้นจึงกระโดดหลบเข้าที่กำบัง ทิ้งหัวหน้า_มาธาดอร์แกว่งไกวเสื้อคลุมสีฉูดฉาดระยิบระยับล่อกระทิงเข้าหาตัว แล้วกรีดกรายหลบวับเสียด้วยท่าทีงดงามยั่วโมโหสัตว์ใหญ่ มาธาดอร์ที่แน่จริงนั้นจะไม่ขยับเท้ายามจะหลบกระทิงพุ่งใส่ เขาโยกตัวและบังคับร่างกายให้พลิ้วไหวด้วยจิตใจนิ่งมั่นคงข้อเท้านิ่งตรึงติดพื้นสนามราวตะปูตอก_มันน่าดูตรงนี้
ล่อจนกระทิงงงงวยแล้ว มาธาดอร์ก็เก็บเสื้อคลุมล่อ เดินจากไปอย่างไม่ไยดี ทิ้งกระทิงป่าเซ่อซ่า ให้งงอยู่กลางสนามซะอย่างงั้น อันกรรมวิธี ณ จุดนี้ เขาเรียกว่าพิธีล่อกระทิงผ่าน หรือ Veronica ด้วยว่าในพระคริสต์ศาสนา นักบุญเวโรนิกาท่านถือผ้าซับพระพักตร์พระเยซูเจ้าด้วยอากัปกิริยาจับชายผ้าสองข้างอย่างมาธาดอร์ทำกับเสื้อคลุมล่อกระทิง
ต่อมา พวกนักทวน ก็จะขี่ม้ากร่อกๆ เข้ามาในสังเวียน อีม้านี้ได้กลิ่น beast_สัตว์ไพร ของกระทิงเข้าก็กลัวขาสั่นฉี่ราด ชั่วแต่จะร้องแหกปากให้เสียศรีก็ร้องมิได้ด้วยนายตัวตัดขลิบเอาเส้นเสียงออกเสียเรียบร้อยแล้วได้แต่แหกปากแหบๆ ไร้เสียงออกมา ข้างนึกจะร่ำไห้ก็มิออก เพราะนายตัวเอากระบอกดำมาปิดครอบลูกกะตาเสียอีกข้าง
มาธาดอร์ก็พากันล่อกระทิง เข้าหาม้าซึ่งสวมเกราะนวมกันอยู่ กระทิงเจอม้าเข้าก็ขวิดเอา ม้าลอยขึ้น อย่างภาษายุทธหัตถีเขาว่า กระทิงนั้น “ได้ล่าง” นักทวนบนม้าจะจับจังหวะเอาทวนแทงเข้าให้ที่โหนกสันคอกระทิง
ถ้าว่ากระทิงนั้นซ่านักทำโถมงุดเข้างัดม้าใบ้อีก นักทวนก็จะแทงอีกแต่ว่าแทงโดยบิดปลายทวนขยี้บาดแผลไปมาให้ช้ำชอกทรกรรม อีทีนี้กระทิงก็บ้าเลือด เพราะเลือดมันออกมาก ผู้ชมก็จะโห่ฮา ว่า หนอย_เอาเปรียบกระทิง!
กระทิงที่ฉลาดจะวนตั้งหลักแล้วพุ่งเข้าขวิดกลางม้าให้มันล้มคว่ำคะมำหงายกันทั้ง ม้าทั้งคน ฉวยจังหวะเข้าบุกกระทืบซ้ำ ชั่วแวบนี้มาธาดอร์ก็จะปราดมาล่อมันไปอีกทาง เพื่อพวกนักทวนที่พลาดท่าพากันทุลักทุเลออกจากสังเวียนไป ท่ามกลางเสียงโห่ฮาของผู้ชม ว่า หนอย_นึกว่าแน่ จบฉากนี้
นักปฏักก็จะเดินเข้าสังเวียน ดุ่มเข้าหากระทิงอย่างมิกลัวตาย แล้วเขย่งเท้าขึ้นประจงทิ่มปฏักคู่ที่มีเงี่ยงลงบนไหล่กระทิงที่วิ่งผ่านตัวไป_ฟึ่บ อีกระทิงยิ่งวิ่งก็ยิ่งเจ็บตัวเพราะปฏักข้างโคนมันไกวไปมาสร้างความเจ็บแปลบทุกก้าวเดิน ทีนี้เจ้าสัตว์ยักษ์ก็เริ่มรู้แล้วว่าสู้กับคนที่มาเปนทีมมันยาก หยุดนิ่งรอความตายอยู่ ปวงผู้ชมมหรสพก็โห่ร้องด่ากระทิงที่ใจเสาะ นักปฏักคนที่สองก็จะหาทางเดินเข้าไปประเคนปฏักคู่ที่สองอีกให้จนได้
ตานี้แตรเดี่ยวของพลแตรก็ดังขึ้น มาธาดอร์ถือดาบและผ้าแดงเข้าสังเวียน แสดงคำนับผู้ชม โยนหมวกทิ้งแล้วกวักผ้าแดงเรียกกระทิง ซึ่งด้วยมานะผสมเสียงโห่ ก็โง่ออกมาให้เขาฆ่า มาธาดอร์จะล่อให้เขากระทิงเฉียดฉิวตัวเองไปแบบหมิ่นเหม่ ซึ่งเปนที่น่าชื่นชมให้ลีลาสวยงามปนหวาดเสียว ก่อนจะหาทางให้สัตว์ทะมึนนี้ยืนตรงขาเสมอกันต่อหน้าตัวให้ได้ แล้วจึงประจงเสียบดาบสองคมเข้าที่จุดตายตรงซอกคอระหว่างกระดูกไหล่ ทั้งสองด้าน ซึ่งมีขนาดสักเท่ากำไลข้อมือเด็ก เรียกจังหวะนี้ว่า “นาทีแห่งสัจจะ” คือสัจธรรมกระมัง ว่าทุกชีวิตเกิดมาต้องตายแน่_มึงไม่ตายก็กูตาย ดังนี้แล้วชาวคณะกับขบวนฬ่อก็จะมาลากเอาศพกระทิงไป ทิ้งของที่ระลึกคือชิ้นส่วนกระทิง เช่น หาง หูให้แก่คณะปราบกระทิง
กติกามีว่า การแทงกระทิงนี้ต้องทำสำเร็จให้ได้ในกำหนด 15-20 นาที ไม่งั้นแลจะเปนการทรมานมากไป เขาจะส่งวัวตัวเมียขโยงหนึ่งมาล่อกระทิงออกไปจากสนามแล้วเอาไปเชือดทิ้งเองที่โรงเชือด มาธาดอร์ที่ขัดกติกาสนามมีโทษทางวิชาชีพถึงคุกตะราง ด้วยเหตุว่าการอันลงสนามปะทะกันนี้ แลกระทิงค่อนจะเสียเปรียบคนจึงไม่ควรเข้าข่ายการประลองแข่งขันฝีมืออย่างกีฬา แถมมีฉากมีองก์การละเล่นเปนบทตอนตายตัว จึงสมควรเรียกมันว่าเปนมหรสพ เสียมากกว่า มากกว่าเปนกีฬา
หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,537 วันที่ 5 - 8 มกราคม พ.ศ. 2563
