ชี้ชะตา "โอ๊ค" 25 พ.ย.
คดีฟอกเงิน
โทษคุกสูงสุด 10 ปี
“คดีฟอกเงินกรุงไทย” ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ เวลา 10.00 น. กำลังถูกจับจ้องพร้อมตั้งคำถามท้าทายถึง “พานทองแท้ ชินวัตร” หรือ “โอ๊ค” บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี จะมาฟังคำพิพากษาด้วยหรือไม่
ประวัติศาสตร์คงไม่ซ้ำรอยเหมือนกับ “คดีโครงการจำนำข้าว” ที่ “อาสาว-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ซึ่งเคยลั่นวาจาประกาศกับกองเชียร์เอาไว้ว่า จะมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สุดท้ายก็เลือกล่องหนตามรอย “พี่ชาย-ทักษิณ ชินวัตร” ที่หนีออกนอกประเทศจาก คดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ
เมื่อวันที่ “โอ๊ค” เดินทางมาขึ้นเบิกความในคดีนี้ เขาเองก็ยืนยันไว้ว่า ..จะกลับมาฟังคำตัดสินด้วยตัวเองอีกครั้งในวันที่ 25 พฤศจิกายน..”
ที่บอกเช่นนี้อาจเป็นเพราะ “โอ๊ค” ไม่ได้อยู่ร่วมในวงสนทนาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2561 วันนั้นมีผู้ร่วมวงถาม “ยิ่งลักษณ์” ว่า ทำไมจึงตัดสินใจหนีออกมาจากประเทศไทย ซึ่งเธอยืนยันว่า ไม่คิดจะหนี และพร้อมที่จะเดินเข้าคุกเพราะยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่าจะยังดำรงความเป็นธรรมให้กับเธอ และเธอก็ยืนยันเรื่องนี้มาโดยตลอด มีเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นกลางวงสนทนาวันนั้นว่า
“...แต่ผมจะไม่ยอมให้น้องสาวผมติดคุกแม้แต่วันเดียว หรือแม้แต่วินาทีเดียว”
สำหรับ “คดีฟอกเงิน” นี้ สำนักงานอัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้อง พานทองแท้ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91 จากกรณีร่วมรับโอนเงินเป็นเช็คจำนวน 10 ล้านบาท เข้าบัญชี ซึ่งเป็นเงินส่วนหนึ่งของการกระทำจากการทุจริตปล่อยกู้สินเชื่อระหว่างธนาคารกรุงไทย กับเอกชนกลุ่มกฤษดามหานคร ที่ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก อดีตก.ก.ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย อดีตเจ้าหน้าที่สินเชื่อและกลุ่มกฤษดามหานครหลายราย เมื่อปี 2560
ทั้งนี้ พ.ร.บ.ปปง. มาตรา 60 บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผลของคำพิพากษาของศาลในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ อาจยังไม่ลุ้นเท่ากับการปรากฏตัวของ พานทองแท้
อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงการตัดสินของศาลชั้นต้นเท่านั้น ผู้ถูกกล่าวหายังสามารถยื่นร้องอุทธรณ์ต่อได้ หากเบื้องต้นศาลชี้ว่ามีความผิด