เงินเฟ้อสหรัฐฯ‘ตํ่า’ อุปสรรคเฟด‘ขึ้น’ดอกเบี้ย

02 ส.ค. 2560 | 23:15 น.
MP18-3284-CC ย้อนกลับไปในช่วงเดือนมิถุนายนธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดเคยระบุว่า เฟดมีความกังวลเพียงชั่วคราวต่ออัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯและเฟดยังคงมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า ดังนั้นอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง ไม่อาจเป็นอุปสรรคสำหรับเฟดสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ดูเหมือนว่าอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับตํ่าจะเริ่มส่งผลต่อการตัดสินใจของเฟดบ้างแล้ว หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปทรงตัวในเดือนมิถุนายน และดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด 0.1% ในเดือนมิถุนายน และเมื่อเทียบรายปีหากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ปรับตัวขึ้น 1.7% ในเดือนมิถุนายน ขณะที่ตัวเลขค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานซึ่งเป็นหนึ่งดัชนีที่เฟดใช้ประกอบในการพิจารณาเงินเฟ้อ เดือนพฤษภาคมลดลงสู่ระดับ 1.4% จาก 1.5% ในเดือนก่อนหน้าบ่งชี้ถึงอัตราเงินเฟ้อในระดับตํ่าของสหรัฐฯ

MP18-3284-B ความวิตกของเฟดด้านอัตราเงินเฟ้อระดับตํ่า สะท้อนให้เห็นจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่กล่าวในระหว่างการแถลงต่อสภาคองคองเกรสว่า เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดงบดุล “อย่างค่อยเป็นค่อยไป” และเฟดพร้อมที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับตํ่า ถ้อยแถลงนี้ถือว่าไม่ได้เป็นไปในเชิงสายเหยี่ยวหรือแบบที่สนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินแบบคุมเข้มมากเท่าที่ผ่านมา ด้านการประชุมเฟด ครั้งล่าสุดที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงในวันที่ 25-26 กรกฎาคม เฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ตามที่ตลาดคาด ขณะที่แถลงการณ์ระบุว่าเฟดจะเริ่มทำการปรับงบดุลเข้าสู่ภาวะปกติ “ในไม่ช้า”ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะปรับลดงบดุลในการประชุมเดือนกันยายน แต่หากมองในมุมของอัตราเงินเฟ้อนั้น เฟดกลับมีการตั้งข้อสังเกตเรื่องความอ่อนแอของอัตราเงินเฟ้ออย่างชัดเจนมากกว่าแถลงการณ์ครั้งก่อนๆ ทำให้นักลงทุนคาดการณ์กันว่า เฟดอาจจะเลื่อนเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปแทนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากแรงเทขายของนักลงทุนและปัจจัยดังกล่าวส่งผลในเชิงบวกต่อราคาทองคำอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ดี แนะนำนักลงทุนทองคำยังคงจับตาตัวเลขที่บ่งชี้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯอย่างใกล้ชิดจากการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน เพื่อใช้เป็นปัจจัยในการคาดการณ์การดำเนินนโยบายการเงินของเฟดในอนาคต โดยหากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯยังคงอยู่ระดับตํ่าต่อเนื่องในช่วงต่อไปของปีนี้ เชื่อว่าอาจกลายเป็น “อุปสรรค” สำคัญที่กระทบต่อแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีก 1 ครั้งในปีนี้อย่างแน่นอน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,284 วันที่ 3 -5 สิงหาคม พ.ศ. 2560