ผลกระทบ‘ฟินเทค’(1)

12 มิ.ย. 2560 | 06:00 น.
TP5-3269-A ผมเชื่อว่าท่านคงจะเคยได้ยินคำว่า “ฟินเทค”หรือเคยเห็นคำว่า “FinTech” มาบ้าง คำนี้เริ่มเป็นที่แพร่หลายและถูกพูดถึงบ่อยมากโดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2016เป็นต้นมา แต่ท่านเคยสงสัยหรือไม่ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่? และมันสำคัญต่อผู้ประกอบการ หรือประชาชนคนไทยอย่างไรบ้าง

ฟินเทค (FinTech) ย่อมาจาก Financial Technologies คือ “การนำเทคโนโลยีมาใช้ในอุตสาหกรรมการเงิน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปฏิบัติงานของสถาบันการเงินต่างๆ แต่หลังๆ มานี้คำว่า “ฟินเทค” มันหมายถึง “การพลิกโฉมหน้าเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมด้านการเงิน” การชำระเงิน, การโอนเงิน, การกู้ยืมเงิน, การหาเงินทุน และการบริหารจัดการเงินลงทุน เหล่านี้ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับฟินเทคทั้งสิ้น

เม็ดเงินด้านการลงทุนในฟินเทคกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในปีนี้ และคาดว่าจะสูงต่อเนื่องไปในอนาคตเพราะว่าฟินเทคไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงอุตสาหกรรมการเงินเท่านั้น แต่รวมไปถึงบริการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชำระค่าสินค้าและบริการ ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับธุรกิจทุกชนิด

แล้วฟินเทค เปลี่ยนธุรกิจของคุณยังไง?

ในอดีตถ้าเราต้องการเริ่มธุรกิจของตนเอง ก็ต้องไปเปิดบัญชีกับธนาคาร รวมถึงการยื่นขอเงินสินเชื่อเพื่อทำธุรกิจ หรืออาจจะต้องลำบากในการหานักลงทุนที่จะมาร่วมทำธุรกิจ นอกเหนือจากนี้หากธุรกิจของเราต้องรับชำระค่าสินค้าด้วยบัตรเครดิต ก็จำเป็นต้องเปิดบัญชีกับธนาคารเพื่อให้ทำธุรกรรมต่างๆ ได้ รวมถึงต้องซื้อเครื่องรูดบัตร และซื้อซิมการ์ดที่มีอินเตอร์เน็ตเพื่อใส่ในเครื่องรูดบัตร เพื่อให้ระบบรับชำระเงินสะดวกที่สุดสำหรับลูกค้าแต่เมื่อฟินเทคมาปัญหาเหล่านี้จะหมดไป

(ตอนหน้า...ปัญหาหมดไปอย่างไร-ผลกระทบต่อประชาชน)

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,269 วันที่ 11 - 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560