5 สมาคมเสนอแผนผ่อนปรนการล็อคดาวน์ 3 ระดับฝ่าวิกฤตโควิด-19

25 มิ.ย. 2564 | 11:35 น.

5 สมาคมเสนอแผนผ่อนปรนการล็อคดาวน์ 3 ระดับฝ่าวิกฤตโควิด-19 ชี้ต้องให้ความสำคัญกับผลกระทบของระบบเศรษฐกิจทุกระดับและการจ้างงาน

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า สมาพันธ์ฯ ได้ดำเนินการร่วมกับคณะกรรมการค้าปลีกและบริการ หอการค้าไทย ,สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ,สมาคมศูนย์การค้าไทย และสมาคมภัตตาคารไทยมีข้อเสนอแนะว่า การล็อคดาวน์เพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีแผนปฎิบัติการเชิงรุกร่วมด้วย และต้องมีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบ เช่นช่วยค่าน้ำค่าไฟ เป็นเวลา 3 เดือน, ช่วยจ่ายค่าแรงงานที่ต้องว่างงาน และชดเชยรายได้ที่หายไป เป็นต้น 
    ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องล็อคดาวน์กรุงเทพฯ และปริมณฑลเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความสำคัญกับผลกระทบของระบบเศรษฐกิจทุกระดับและการจ้างงาน ทั้ง 5 สมาคมฯ จึงขอนำเสนอแนวทางในการล็อคดาวน์เป็น 3 ระดับ ดังนี้
    1. ล็อคดาวน์เป็นช่วงเวลา โดยกำหนดการเปิด-ปิดธุรกิจเหมือนช่วงหลังสงกานต์ปี 2564 ที่ผ่านมา พร้อมเร่งแผนการนำเข้า และฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงและเร็วที่สุด และมีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบ
    2. ล็อคดาวน์เป็นบางคลัสเตอร์ หรือบางจุดในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยจำกัดการเคลื่อนย้ายประชาชนในพื้นที่ และเร่งฉีดวัคซีนในคลัสเตอร์ให้ครบ 100% พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน และมีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการในคลัสเตอร์นั้นๆ
    3. ล็อคดาวน์เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยงดการเคลื่อนย้ายข้ามพื้นที่และปูพรมการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงโดยเร็วที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องล็อคดาวน์ถึง 14 วัน ถ้าสามารถเร่งการฉีดวัคซีนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ 100% และยังคงต้องมีมาตรการเยียวผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

แสงชัย ธีรกุลวาณิช
    สำหรับทั้ง 5 สมคมนั้นมีการจ้างงานถึง 12 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 34% ของ GDP ประเทศ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจรวม 5.6 ล้านล้านบาท โดยตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา ทั้ง 5 สมาคมฯได้ให้ความร่วมมือและสนับสนุนทุกๆ มาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อช่วยลดการแพร่ระบาดของโควิด 19 (Covid-19) โดยได้ยกระดับมาตรการการป้องกันโควิดขั้นสูงสุดในทุกธุรกิจของเครือข่ายของสมาคมฯ มาโดยตลอด และมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการช่วยลดการแพร่ระบาดฯ และแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศที่ทำงานอย่างหนัก และต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน
    นอกเหนือจากนี้ ยังได้เพิ่มการสนับสนุนให้พื้นที่เพื่อเป็นจุดฉีดวัคซีน พร้อมโมเดลของระบบการทำงาน (Total Solutions) รวมทั้งเรื่องความช่วยเหลือในส่วนต่างๆ อาทิเช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ เตียงสนาม เครื่องอุปโภคและบริโภค เป็นต้น และยังเน้นย้ำเรื่อง “การ์ดไม่ตก” ในระดับสูงสุด โดยมีมาตรการให้พนักงานทำงานอยู่บ้าน แบบ WFH (Work from Home) เพื่อเป็นการลดการแพร่ระบาด และยังคงทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ธุรกิจรายย่อย และประชาชนทั่วไป ยังคงมีรายได้และสามารถดำเนินชีวิตประจำวันบนสถานการณ์ที่ไม่ปกตินี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :