18แนวทางบริการสายการบินห้ามผู้โดยสารมีไข้สูงกว่า37.3องศาขึ้นเครื่อง

11 เม.ย. 2564 | 07:30 น.

สำนักงานการบินพลเรือนออก 18 แนวทางปฏิบัติของสายการบินรับสงกรานต์นี้ ย้ำหากผู้โดยสารมีไข้สูงกว่า 37.3องศาเซลเซียส ให้งดการออกบัตรขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) แก่ผู้โดยสารนั้น

นายสุทธิพงษ์  คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT  ได้ออกแนวปฎิบัติในการให้บริการผู้โดยสารสำหรับเส้นทางการบินภายในประเทศ ช่วงสงกรานต์นี้ โดยระบุว่าให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศดำเนินมาตรการ รวมกว่า 18 มาตรการดังต่อไปนี้                                                  

1.ในกรณีที่ปรากฏว่าท่าอากาศยานต้นทางไม่มีการทำการตรวจคัดกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการในท่าอากาศยาน ให้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย (Body Temperature Screening) ของผู้โดยสาร โดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดที่ไม่ต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้ถูกตรวจวัด (Non-contact infrared thermometer) ก่อนขึ้นเครื่อง และสังเกตอาการโดยทั่วไป หากวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า ๓๗.๓ องศาเซลเซียส หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทันที หากการวินิจฉัยเห็นว่ามีความเสี่ยง ให้งดการออกบัตรขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) แก่ผู้โดยสารนั้น

2.กำหนดให้มีมาตรการและวิธีปฏิบัติเพื่อรักษาระยะห่างของผู้โดยสารตลอดระยะเวลาเดินทาง โดยรวมถึงขั้นตอนการลำเลียงผู้โดยสารขึ้นและลงจากอากาศยาน ไม่ว่าจะดำเนินการด้วยการเดินเท้า การใช้รถบัสหรือสะพานเทียบอากาศยาน จำกัดการรวมกลุ่มในขณะจัดเก็บหรือหยิบสัมภาระในที่เก็บของเหนือศีรษะ การย้ายที่นั่งโดยไม่จำเป็น การเข้าแถวรอใช้ห้องน้ำในห้องโดยสาร โดยมาตรการและวิธีการปฏิบัตินั้นต้องมั่นใจได้ว่ามีการรักษาระยะห่างที่เหมาะสมสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือ   เป็นพิเศษด้วย     

3.กำหนดให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า (Mask) ตลอดเวลาที่อยู่ในอากาศยาน ยกเว้นในสถานการณ์จำเป็นหรือฉุกเฉิน ทั้งนี้ ในระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบเพื่อออกบัตรขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) ให้ตรวจสอบด้วยว่าผู้โดยสารมีหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หากพบว่าผู้โดยสารไม่มีหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และไม่สามารถจัดหามาแสดงได้ ให้งดการออกบัตรขึ้นเครื่องให้แก่ผู้โดยสารนั้น

4.งดการให้บริการอาหารและเครื่องดื่มในระหว่างการปฏิบัติการบิน รวมทั้งห้ามผู้โดยสารรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่นำติดตัวมาด้วย ยกเว้น ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรือจำเป็น ลูกเรืออาจพิจารณาจัดน้ำดื่มให้บริการแก่ผู้โดยสารได้ ทั้งนี้ ให้กระทำในพื้นที่ที่ห่างจากผู้โดยสารคนอื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ 

5. งดการให้บริการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือแผ่บพับโฆษณาต่าง ๆ สำหรับผู้โดยสารในระหว่างการปฏิบัติการบิน ยกเว้นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยเท่านั้น

6.งดการจำหน่ายสินค้าที่ระลึกและสินค้าปลอดภาษีอากรในระหว่างการปฏิบัติการบิน                         

7.จัดให้มีแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ (แอลกอฮอล์ ๗๐%) เพื่อใช้สำหรับล้างมือไว้ให้บริการอย่างเพียงพอให้กับผู้โดยสารและพนักงานของผู้ดำเนินการเดินอากาศ                                      

8.กำหนดให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในอากาศยานใช้อุปกรณ์ช่วยป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment; PPE) ดังนี้

(ก) นักบินให้สวมหน้ากากอนามัย (Surgical Mask)

(ข) ลูกเรือให้สวมหน้ากากอนามัยอนามัยและถุงมือยาง (Disposable Medical Rubber Gloves) ตลอดระยะเวลาปฏิบัติการบิน

ผู้ดำเนินการเดินอากาศสามารถพิจารณาจัดหาอุปกรณ์อื่นที่สามารถป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติมได้ เช่น แว่นตา (Goggles) อุปกรณ์ป้องกันใบหน้าจากของเหลวติดเชื้อ (Face Shield) หรือชุดป้องกันเชื้อโรค เป็นต้น   

9.ทำความสะอาดชุดอุปกรณ์ในห้องโดยสารที่ต้องส่งต่อหรืออาจมีการส่งต่อ เช่น อุปกรณ์สาธิตเพื่อความปลอดภัย (Safety Demonstration Kits) เข็มขัดนิรภัยส่วนต่อขยาย (Extension Seat Belt) เข็มขัดนิรภัยส่วนต่อขยายสำหรับทารก (Infant Seat Belt) เสื้อชูชีพสำหรับทารก (Infant Life Vest) เป็นต้น ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหลังจากการใช้งานของผู้โดยสาร หรือก่อนส่งต่อให้ลูกเรือผู้ที่จะปฏิบัติหน้าที่

ผู้ดำเนินการเดินอากาศอาจจัดหาชุดอุปกรณ์ควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ (Universal Precautions Kits; UPK) และน้ำยาฆ่าเชื้อ (Disinfecting Agent) ให้มีจำนวนเพียงพอและเหมาะสมในแต่ละเที่ยวบิน เพื่อให้ลูกเรือใช้ทำความสะอาดและกำจัดของเหลวที่มีอันตรายทางชีวภาพเพื่อลดการแพร่เชื้อโรคในห้องโดยสาร                                               

10.ให้ลูกเรือติดต่อสื่อสารกับนักบินผ่านอุปกรณ์สื่อสารภายในอากาศยาน (Interphone) เป็นหลัก และได้รับอนุญาตให้เข้าและออกห้องนักบินเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่นักบินเฉพาะเมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น                                                                                          

11.เที่ยวบินที่ปฏิบัติการบินโดยใช้ระยะเวลามากกว่า ๙๐ นาที ให้มีการสำรองที่นั่งสองแถวหลังสุดด้านใดด้านหนึ่งของอากาศยานไว้สำหรับแยกกักผู้ป่วยหรือสงสัยว่าจะป่วยเพื่อเฝ้าสังเกตอาการและป้องกันการแพร่กระจายของโรค

12.ในกรณีที่พบผู้โดยสารหรือลูกเรือที่มีอาการป่วยหรือสงสัยว่าจะป่วยเป็นโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ขณะอยู่ในอากาศยาน ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศดำเนินมาตรการ On-board Emergency Quarantine ดังนี้

(ก) ให้แยกกักผู้ที่มีอาการป่วยหรือสงสัยว่าจะป่วยให้นั่งที่นั่งซึ่งสำรองไว้ตาม (๑๑) โดยให้ห่างไกลจากผู้โดยสารคนอื่นมากที่สุด

(ข) ในกรณีที่มีห้องน้ำมากกว่าหนึ่งห้อง ให้กันห้องน้ำที่อยู่ใกล้บริเวณที่นั่งซึ่งสำรองไว้ตาม (๑๑) ไว้สำหรับเฉพาะผู้ป่วยหรือผู้ที่สงสัยว่าจะป่วย

(ค) พิจารณากันห้องน้ำห้องหนึ่งไว้สำหรับลูกเรือใช้โดยเฉพาะ โดยให้คำนึงถึงจำนวนห้องน้ำที่เพียงพอสำหรับผู้โดยสารใช้ด้วย

(ง) ให้มอบหมายให้ลูกเรือคนหนึ่งปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่แยกกักตาม (๑๑) และให้ลูกเรือที่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับลูกเรือคนอื่นในระยะใกล้กว่า ๒ เมตร

(จ) ให้นักบินผู้ควบคุมอากาศยานแจ้งข้อมูลการตรวจพบผู้โดยสารหรือลูกเรือที่มีอาการป่วยหรือสงสัยว่าจะป่วยต่อพนักงานควบคุมการจราจรทางอากาศ เพื่อรายงานให้แก่ผู้ดำเนินการสนามบิน ณ ท่าอากาศยานปลายทางทราบ

13.กำหนดให้รถลำเลียงผู้โดยสารไป-กลับระหว่างอาคารผู้โดยสารและอากาศยาน (Shuttle bus) สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ไม่เกินร้อยละ ๗๐ ของความจุมาตรฐานของยานพาหนะนั้น ๆ โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน ทั้งนี้ ให้ทำความสะอาดพื้นผิวและอุปกรณ์ที่มีการสัมผัสบ่อย ๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ                         

14.หลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติการบินทุกครั้ง ให้ทำการฆ่าเชื้อโรค (Disinfection) ในส่วนของห้องโดยสารตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด    

15.ในระหว่างที่อากาศยานจอดพักหรือจอดบำรุงรักษา ให้พิจารณาใช้แหล่งพลังงานสำรอง (Auxiliary Power Unit; APU) แทนการใช้อากาศจากสะพานเทียบอากาศยาน และหลังจากไปถึงสถานีปลายทางแล้วควรเปิดประตูระบายอากาศด้วย

16.ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง หรือ High Efficiency Particulate Air (HEPA) Filter ตามกำหนดเวลาที่ระบุในคู่มือผู้ผลิต โดขชิ้นส่วนที่ใช้แล้วให้ทำการบรรจุใส่ถุงพลาสติกและปิดให้เรียบร้อย                          

17.หากอากาศยานมีข้อบกพร่องตามรายการอุปกรณ์ขั้นต่ำที่ใช้งานได้ (Minimum Equipment List; MEL) โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบทำความเย็นและปรับสมดุลความดันและระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสาร (Air Conditioning Packs and Recirculation Fans) ต้องทำการแก้ไขโดยเร็วที่สุด

18.พิจารณานำเครื่องมือการให้บริการตนเองประเภทต่าง ๆ เช่น เครื่องออกบัตรโดยสารและป้ายติดสัมภาระอัตโนมัติ (Kiosk) เครื่องโหลดสัมภาระอัตโนมัติ (Self-Bag Drop) เป็นต้น มาใช้ทุกสนามบินเพื่อลดการติดต่อสัมผัส และจะต้องมีการดูแลรักษาอุปกรณ์ดังกล่าวอย่างเหมาะสมและมีการฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ       

18แนวทางบริการสายการบินห้ามผู้โดยสารมีไข้สูงกว่า37.3องศาขึ้นเครื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: