บทบาทพ่อแม่ ในธุรกิจครอบครัว  

20 ก.ย. 2563 | 08:06 น.

การสืบทอดธุรกิจมีความสำคัญในธุรกิจครอบครัว แต่ "บทบาทพ่อแม่" เมื่อที่ต้องการสร้างทายาทและส่งมอบมรดกให้ลูกสืบต่อ ควรทำอย่างไรต่อไป  

สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่มีผลต่อความยั่งยืนของธุรกิจครอบครัวคือการอบรมเลี้ยงดูทายาทให้ดี การพัฒนาความเป็นผู้นำในธุรกิจครอบครัวนั้นจะเริ่มต้นเร็วกว่าในธุรกิจอื่นๆ เนื่องจากการทับซ้อนระหว่างธุรกิจและครอบครัว ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อรูปแบบผู้นำว่าเกิดจาก “ธรรมชาติกำหนด” หรือ “การอบรมเลี้ยงดู” นักวิจัยชี้ถึงความแตกต่างของรูปแบบความเป็นผู้นำจะขึ้นกับพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม เช่น การมีต้นแบบที่แตกต่างกัน และโอกาสในการพัฒนาความเป็นผู้นำในระยะเริ่มต้น

 

นักวิชาการชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลในการเป็นผู้นำกับความผูกพันทางจิตใจในระยะเริ่มต้นระหว่างพ่อแม่ (หรือผู้ดูแลหลัก) และลูกๆ การเลี้ยงดูทายาทอย่างเหมาะสมของพ่อแม่มีความสัมพันธ์กับการเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นคงทางใจซึ่งมีความภาคภูมิใจในตนเองค่อนข้างสูงและมีแนวโน้มจะเป็นผู้นำที่มีลักษณะทางบวกและมีความมั่นใจในความสามารถในการทำงานที่ดี

 

ในทางกลับกันการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมนั้นสัมพันธ์กับการเป็นผู้นำที่วิตกกังวลและสับสน มักหมกมุ่นอยู่กับความผูกพันทางจิตใจและมีความนับถือตนเองต่ำ พวกเขาอาจแสดงความไม่แน่ใจถึงความสามารถของตนในการทำหน้าที่ผู้นำที่ดี นอกจากนี้ความไม่พร้อมของพ่อแม่ในการตอบสนองในวัยเด็กมีความสัมพันธ์กับการเป็นผู้ใหญ่ที่หลีกเลี่ยงสัมพันธภาพที่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัว
  บทบาทพ่อแม่ ในธุรกิจครอบครัว    

ทั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าการอบรมเลี้ยงดูส่งผลต่ออนาคตของธุรกิจครอบครัว เนื่องจากเป็นการสอนให้มีความสามารถในการสื่อสาร รู้จักนึกถึงสิ่งอื่นนอกเหนือจากผลประโยชน์ของตนเอง การตัดสินใจ แสวงหาฉันทามติและต้องการความเป็นธรรมและความยุติธรรมให้กับผู้อื่น ธุรกิจครอบครัวถือเป็นความท้าทายขั้นสูงสุดสำหรับผู้นำเพราะในขณะที่ผู้นำคนปัจจุบันสร้างหรือดำเนินธุรกิจก็ยังต้องอบรมเลี้ยงดูลูกของตนซึ่งจะมีส่วนร่วมอย่างมากในความสำเร็จของธุรกิจในอนาคต

มีคำแนะนำอย่างหนึ่งคืออย่าละเลยการอบรมเลี้ยงลูก แม้อาจต้องจมอยู่กับการทำงานอย่างหนักเพื่อตอบสนองความคาดหวังของตนเองและพ่อแม่ ตลอดจนสร้างมรดกให้กับลูกๆ แต่ก็ควรจัดสรรเวลาที่เหมาะสมให้กับครอบครัวและในฐานะพ่อแม่ด้วย ทั้งนี้อุปนิสัยในการทำงาน ทัศนคติต่อธุรกิจ ค่านิยมและความสัมพันธ์ล้วนฝังรากลึกตั้งแต่วัยเด็กของคนรุ่นใหม่

 

โดยพ่อแม่ถ่ายทอดค่านิยมและทัศนคติด้วยการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ทั้งนี้ทัศนคติที่ดีต่อธุรกิจเกิดจากความกระตือรือร้นและความสุขของพ่อแม่ที่แสดงให้เห็นจากความสำเร็จ การทำงานหนัก ความรับผิดชอบและการเสียสละ อย่างไรก็ตามการพูดคุยในเรื่องธุรกิจและการเปิดรับลูกๆเข้าสู่ธุรกิจ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องบังคับให้เข้ามาทำงาน เพราะพวกเขายังไงก็ยังคงเป็นเจ้าของ

 

สิ่งที่ผู้นำคนปัจจุบันต้องการคือให้ลูกเป็นเจ้าของธุรกิจที่ภาคภูมิใจ สนใจ และเข้าใจคุณค่าในมรดกของตน การเปิดรับลูกเข้าสู่ธุรกิจตั้งแต่เล็กจะทำให้พวกเขามีอิสระอย่างแท้จริงในการเลือก โดยต้องให้พวกเขามีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับธุรกิจเพื่อทำการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลครบถ้วนว่าจะเข้ามาทำธุรกิจครอบครัวหรือมีเป้าหมายอย่างอื่นที่อยากทำมากกว่า 

 

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,611 วันที่ 20 - 23 กันยายน พ.ศ. 2563  

บทความที่เกี่ยวข้อง 

บาป 3 ประการ ในการสืบทอดธุรกิจครอบครัว 

เมื่อคิดจะเริ่มต้นแผนการ สืบทอดธุรกิจ

แนวทางฝ่าวิกฤติ  ของธุรกิจครอบครัว มัลติเจนเนอเรชั่น