ทอท. เลื่อน 3 สัญญาสัมปทาน “คิงเพาเวอร์" 1 ปี

30 ก.ค. 2563 | 02:36 น.

ทอท.ขยายเวลาการเข้าไปตกแต่งพื้นที่ของคิงเพาเวอร์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิออกไปเป็นวันที่28 กันยายน2563-31 มีนาคม2565 พร้อมปรับเลื่อนระยะเวลาสัมปทานไปเป็น 1 เมษายน65-มีนาคม 2575 เหตุพิษโควิด ส่งมอบพื้นที่ไม่ได้ตามกำหนด

ทอท.ขยายเวลาการเข้าไปตกแต่งพื้นที่ของคิงเพาเวอร์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิออกไปเป็นวันที่28 กันยายน2563-31 มีนาคม 2565 พร้อมเลื่อนระยะเวลาสัมปทานไปเป็น 1 เมษายน 2565 - มีนาคม 2575 จากเดิมที่สัญญาของคิงเพาเวอร์ จะมีอายุสัญญาสัมปทาน 10 ปี 6 เดือน (เริ่มวันที่ 28 กันยายน 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2574) เหตุจากโควิด-19 กระทบงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 สนามบินสุวรรณภูมิดีเลย์ ทำให้ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้คิงเพาเวอร์ได้ตามกำหนดเดิม

บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท.เปิดเผยข้อมูลว่าบอร์ดทอท.มีมติอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการปรับปรุงตกแต่งพื้นที่ และเลื่อนระยะเวลาการเริ่มต้นและสิ้นสุดของการอนุญาตประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ( ทสภ),ท่าอากาศยานภูเก็ต( ทภก.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่(ทชม.) และ ท่าอากาศยานหาดใหญ่(ทหญ.) ให้กับ บริษัทคิงเพาเวอร์ดิวตี้ฟรี จำกัด หรือ KPD และการอนุญาตให้ประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ (รีเทล)ภายในอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ( ทสภ.) ให้กับบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จํากัด หรือ KPS ดังนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"คิงเพาเวอร์"ทุ่มสุดตัวยืน1ดิวตี้ฟรีไทย ต่อยอดท็อปโลก


 

 

1.ขยายระยะเวลาของขั้นตอนการดำเนินการปรับปรุงก่อสร้างตกแต่งพื้นที่ประกอบกิจการที่กำหนดไว้เดิมในระยะที่ 1 ออกไปอีก 1 ปี เป็นตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 

2.เลื่อนระยะเวลาการเริ่มต้น และสิ้นสุดการประกอบกิจการที่กำหนดไว้เดิมในระยะที่ 2 เป็นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2575

ทั้งนี้ หาก ทอท. เปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 อย่างเป็นทางการเมื่อใด KPD และ KPS จะต้องจัดให้มีร้านค้าเปิดให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1อย่างเหมาะสมโดยไม่ส่งผลกระทบกับการให้บริการในภาพรวมของ ทสภ.

 ทอท. เลื่อน 3 สัญญาสัมปทาน “คิงเพาเวอร์" 1 ปี  ทอท. เลื่อน 3 สัญญาสัมปทาน “คิงเพาเวอร์" 1 ปี  ทอท. เลื่อน 3 สัญญาสัมปทาน “คิงเพาเวอร์" 1 ปี

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. (AOT) กล่าวว่า ในส่วนงานประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ซึ่งกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ประกอบกิจการ ณ สนามบินในความรับผิดชอบของทอท.  ด้วยวิธีประมูลเสนอราคา กำหนดอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 กันยายน 2563 – 31 มีนาคม 2574 ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของสัญญา จะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการเข้าปรับปรุงพื้นที่ร้านค้าทั้งภายในอาคารผู้โดยสารหลัก และภายในอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) นั้น
        เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ส่งผลต่อแผนการเปิดใช้อาคาร SAT-1 ณ ทสภ.ซึ่งเดิมมีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2563 แต่จากสถานการณ์ COVID-19 ได้ส่งผลให้วัสดุอุปกรณ์ในงานก่อสร้างหลายรายการ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่มาทดสอบระบบไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ ทำให้ภาพรวมของการทดสอบการเตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการ (Operation Readiness and Airport Transfer : ORAT) สำหรับอาคาร SAT-1 ณ ทสภ. ต้องเลื่อนออกไป โดยคาดว่าจะสามารถทำการทดสอบระบบการปฏิบัติงานต่างๆ ร่วมกันแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2565
          ทั้งนี้ ทอท. ได้จัดทำคาดการณ์ปริมาณจราจรทางอากาศในอนาคตของสนามบินที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT ที่คาดว่าจะกลับมาเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปจนถึงระดับปกติของปี 2562 ในเดือนตุลาคม 2565 ซึ่ง ทอท. ต้องพิจารณากำหนดการเปิดใช้บริการอาคาร SAT-1 ณ ทสภ. ให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง รวมทั้งต้องพิจารณาค่าใช้จ่าย และค่าเสื่อมราคาที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดใช้งานอาคารดังกล่าว ให้สอดคล้องกับประมาณการรายได้ต่อไป
        จากสถานการณ์ข้างต้น จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ไม่สามารถดำเนินงานตามแผนภายใต้สัญญาเดิมได้ เนื่องจากแผนดำเนินงานของผู้ประกอบการต้องติดต่อประสานกับ supplier นำเข้าสินค้าวัสดุอุปกรณ์จากต่างประเทศที่มีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน สินค้าแบรนด์เนมหลายรายการมีการผลิตและจำหน่ายตามฤดูกาล

        ความไม่ชัดเจนในการเปิดให้บริการของอาคาร SAT-1 ณ ทสภ. นั้น ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินการประสานกับ supplier ผู้นำเข้าสินค้าได้ อีกทั้งการเข้าดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารและอาคาร SAT-1 ณ ทสภ. ผู้ประกอบการอาจเข้าปรับปรุงพื้นที่ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ดังนั้นทอท. จึงได้มีการเจรจากับผู้ประกอบการ เพื่อกำหนดวันเริ่มต้นอายุสัญญาให้สอดคล้องกับการเปิดใช้อาคาร SAT-1 ณ ทสภ. คือในเดือนเมษายน 2565

        ในส่วนของการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำนั้น นอกจากผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้การเดินทางลดลงแล้ว ประกอบกับประเทศไทยได้มีการจำกัดการเปิดน่านฟ้าเป็นการทั่วไป จึงทำให้ท่าอากาศยานของ ทอท. ไม่สามารถมีผู้โดยสารมาใช้บริการได้ตามความคาดหมายทอท. จึงยังคงผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อผู้โดยสาร (Sharing per Head) ตามที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เสนอมาในการประมูล และปรับขึ้นตามสัญญาเดิมหลังจากมาตรการช่วยเหลือเบื้องต้นสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคม 2565 โดยค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำโดยรวมจะแปรผันตามจำนวนผู้โดยสารที่เกิดขึ้นจริง ทั้งนี้ทอท.พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่าเป็นทางเลือกที่ให้ผลประโยชน์   ตอบแทนกับ ทอท. สูงที่สุด

       จากมาตรการที่ ทอท.ขยายการยกเว้นเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำจากคิงเพาเวอร์ ไปเริ่มต้นเก็บในวันที่ 1 เมษายน 2565 จากเดิมที่จะต้องเรียกเก็บในช่วงปี 2564 แน่นอนว่าจะเป็นผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของ ทอท.ในปีหน้า แต่หาก ทอท.ยังคงยืนยันจัดเก็บผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำตามที่คิงเพาเวอร์เสนอมานั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เอกชนยกเลิกสัญญา และ ทอท.จะต้องเปิดประมูลใหม่ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงกับผลตอบแทนที่จะได้รับ อีกทั้งผลกระทบใหญ่คือการบริหารจัดการพื้นที่ การให้บริการที่ไม่ต่อเนื่อง

      อนึ่งเมื่อวันที่ 4 ก.ค.62 ทอท.ได้ลงนาม กับกลุ่มคิงเพาเวอร์ในสัญญาให้สิทธิเอกชนประกอบกิจการ จำนวน 3 สัญญา โดยแต่ละสัญญา มีอายุ 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย. 63 ถึง 31 มี.ค.74 โดยมีวงเงินผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี (Minimum Guarantee) รวมกันปีแรกที่มีมูลค่ารวม 23,548 ล้านบาท แบ่งเป็นสัญญาดิวตี้ฟรี ที่สนามบินสุวรรณภูมิ วงเงินผลตอบแทนขั้นต่ำปีแรก15,419 ล้านบาท , สัญญาดิวตี้ฟรี ภูเก็ต,หาดใหญ่, เชียงใหม่ วงเงินผลตอบแทนขั้นต่ำปีแรก 2,331 ล้านบาท และ สัญญาเชิงพาณิชย์สุวรรณภูมิ วงเงินผลตอบแทนขั้นต่ำปีแรก 5,798 ล้านบาท