ชีวิตเกษียณของผู้นำธุรกิจครอบครัว

19 ก.พ. 2563 | 07:30 น.

 

บิสิเนส แบ็กสเตจ

ผศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล

คณบดีคณะวิทยพัฒน์ และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

([email protected])

แนวโน้มที่คนมีอายุยืนยาวและมีสุขภาพดีขึ้น การมีแผนเกษียณอายุจึงมีความสำคัญยิ่งต่อธุรกิจครอบครัวในภูมิภาคต่างๆของโลก จากการศึกษาในโครงการ The STEP 2019 Global Family Business Survey1 ซึ่งทำการสำรวจผู้นำธุรกิจครอบครัวกว่า 1,834 ราย จาก 33 ประเทศ ใน 5 ภูมิภาคทั่วโลก ในช่วงตุลาคม 2018-มีนาคม 2019 เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้นำธุรกิจครอบครัวยุคปัจจุบันวางแผนที่จะเกษียณอายุ แง่มุมเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากก่อนหน้านี้พบหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าธุรกิจครอบครัวที่นำโดยคนรุ่น Silent Generation หรือ รุ่น Baby Boomers แสดงผลการดำเนินงานโดยรวมที่ต่ำกว่าธุรกิจครอบครัวที่นำโดยผู้นำในรุ่นที่อายุน้อยกว่า

ทั้งนี้เมื่อสอบถามถึงแผนการเกษียณอายุ พบว่า 53% มีแผนจะเกษียณอายุระหว่างอายุ 61 - 70 ปี และเป็นที่น่าสังเกตว่า 27% ของผู้นำธุรกิจครอบครัวทั่วโลกมีแผนจะเกษียณเมื่ออายุมากกว่า 70 ปี ซึ่งเมื่อแยกพิจารณาเป็นภูมิภาคก็พบความสอดคล้องจากตัวเลข 40% ในอเมริกาเหนือ ขณะที่ในยุโรปและเอเชียกลางนั้นสูงถึง 60% เช่นเดียวกับในเอเชียและแปซิฟิกอยู่ที่ 46% เป็นต้น

ชีวิตเกษียณของผู้นำธุรกิจครอบครัว

 

ชีวิตเกษียณของผู้นำธุรกิจครอบครัว

งานวิจัยผู้นำธุรกิจครอบครัวรุ่น Millennial วางแผนที่จะเกษียณก่อนครบรอบ 50 ปี ในขณะที่ผู้นำรุ่น Silent Generation และรุ่น Baby Boomers วางแผนเกษียณเมื่ออายุมากกว่า 60 ปี (ภาพที่ 1) ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้นำธุรกิจครอบครัวรุ่น Millennial วางแผนที่จะเกษียณอายุเร็วกว่าซีอีโอในรุ่นที่มีอายุมากกว่า เนื่องจากพวกเขาอาจมุ่งเน้นไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างมากกว่าคนรุ่นก่อนและให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลในชีวิต  แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ 53% ของผู้นำธุรกิจครอบครัวทั่วโลกไม่มีแผนการเกษียณอายุ

สำหรับแผนหลังการเกษียณสำหรับผู้นำพบว่า มากที่สุดคือการเดินทาง (19%) และให้เวลากับครอบครัว (18%) โดยไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในทุกภูมิภาคของโลก ตามมาด้วย บทบาทที่ปรึกษาในครอบครัว (17%) และการพักผ่อน (15%) ซึ่งโดยรวมแล้ว 52% ของผู้นำธุรกิจครอบครัวทั่วโลกวางแผนที่จะใช้เวลาหลังการเกษียณในกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ อย่างไรก็ตามในลาตินอเมริกาและแคริบเบียนผู้นำธุรกิจครอบครัวแสดงความสนใจกิจกรรมหลังเกษียณในเรื่องของ การทำกิจกรรมทางธุรกิจใหม่ มากขึ้น

 

นอกจากนี้ทั้งในลาตินอเมริกา แคริบเบียน ตะวันออกกลางและแอฟริกาก็มีความสนใจการเกษียณในแบบ semiretirement มากขึ้น (คือไม่วางใจหยุดงานทั้งหมด เมื่อสะสมเงินจนพอ จุดที่ต้องการแล้ว ก็ยังคงทำงานต่อไป แต่เปลี่ยนเป็นการทำงานครึ่งเวลาหรืองานในรูปแบบที่ตัวเองพอใจ งานที่กำหนดเวลาทำงานเองได้ และทำต่อไปจนกว่าตัวเองจะอยากเลิก)2และยินดีที่จะเข้าไปมี บทบาทในสภาครอบครัว ขณะที่ผู้นำธุรกิจครอบครัวในเอเชียและแปซิฟิก ตะวันออกกลางและแอฟริกา แสดงความสนใจในการพัฒนา โครงการการกุศลเพื่อครอบครัว อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม: www.famz.co.th

ที่มา: CalabrO, A. and Valentino, A. 2019. STEP 2019 Global Family Business Survey. KPMG Enterprise.

อมิตา อริยอัชฌา. ต้องเท่าไหร่ถึงจะพอ. อ้างถึงใน SET ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. 2014. ทำงานให้น้อยลง ใช้ชีวิตให้มากขึ้น. เข้าถึงจาก https://ja-jp.facebook.com/set.or.th/

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,549 วันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2563