นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเปิดตัว MOC Online One Stop Service บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวด้วยระบบออนไลน์ ของกระทรวงพาณิชย์ ว่า เป็นการพัฒนางานให้บริการของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประโยชน์และลดขั้นตอนการให้บริการประชาชน โดยได้รวบรวมบริการออนไลน์ของหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์รวม 9 หน่วยงาน มาไว้ในจุดเดียวและให้บริการผ่าน www.moc.go.th รวมทั้งสิ้น 85 บริการ แบ่งออกได้เป็น 4 ด้าน คือ 1.จดทะเบียนธุรกิจ 22 บริการ 2.ทรัพย์สินทางปัญญา 11 บริการ 3.การค้าระหว่างประเทศ 28 บริการ 4.การค้าในประเทศ 24 บริการ ซึ่งได้ผ่านการสำรวจและหารือกับทุกภาคส่วน ทั้งผู้รับบริการ เกษตรกร ภาคการผลิต การส่งออก ภาคบริการและภาคธุรกิจทั่วไปว่าอยากจะให้มีบริการแบบนี้
สำหรับรูปแบบของการให้บริการ ผู้รับบริการไม่จำเป็นต้องไปที่กระทรวงพาณิชย์ ไม่ต้องไปที่สำนักงานสาขา หรือไม่ต้องไปที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด แต่มาขอรับบริการผ่านระบบได้จบในจุดเดียว ทั้งเรื่องการจดทะเบียนธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ทรัพย์สินทางปัญญา การขอใบอนุญาต ใบขนสินค้าเกษตร หรือบริการอื่นๆ ในเวลาที่รวดเร็ว ไม่ต้องรอ 1 วัน 2 วัน อาจจะแค่ 10 นาที ครึ่งชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมงจบ
นอกจากนี้ ยังจะให้บริการเรื่องสถิติ ข้อมูลข่าวสารที่สำคัญ ข้อมูลเชิงวิเคราะห์ ซึ่งได้เน้นเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถนำไปใช้ประกอบในการซื้อขายสินค้าและบริการต่างๆ ทั้งภาคการเกษตรและภาคอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งช่วยวิเคราะห์ในภาคการลงทุน ภาคธุรกิจได้ด้วย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ และจะเปิดช่องทางให้มีการให้คำปรึกษาผ่านการแชท (Chat) โดยมีเจ้าหน้าที่ให้บริการตอบคำถาม และต่อไปจะให้บริการได้ 24 ชม. เพื่อให้ผู้รับบริการสะดวกที่สุด
นายจุรินทร์กล่าวว่า การพัฒนางานบริการในครั้งนี้ เป็นการทำงาน เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นตั้งใจของการให้บริการของกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการพัฒนาการให้บริการให้ง่ายต่อการรับบริการและสะดวกรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเพื่อให้เห็นผลสัมฤทธิ์ของ 1 ใน 14 แผนงานของกระทรวงพาณิชย์ที่จะดำเนินการในปี 2564 ที่ได้ผลสัมฤทธิ์ตั้งแต่ต้นปี รวมทั้งเป็นการสนองนโยบาย e-Government ของรัฐบาลในยุค New Normal ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องการเห็นทุกกระทรวงพัฒนาไปนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาช่วยในการทำงาน เพื่อให้บริการพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ การพัฒนางานบริการ ยังจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความยากง่ายในการทำธุรกิจของไทยตัวหนึ่ง โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา อันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจของประเทศไทยสูงขึ้น 6 อันดับ มาอยู่ที่ลำดับที่ 21 ของโลก และหวังว่าจากนี้ไป ภายใต้การร่วมมือของกระทรวงพาณิชย์ในการให้บริการประชาชนให้เกิดความง่ายในการทำธุรกิจ จะช่วยให้อันดับขีดความสามารถในการแข่งขันจะดีขึ้นต่อไป โดยจะไม่หยุดเท่านี้ จะเร่งพัฒนาเพิ่มเติมอีกให้เร็วขึ้นกว่านี้ สะดวกกว่านี้ ง่ายกว่านี้ และเพิ่มการให้บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวด้วยระบบออนไลน์ให้มีการบริการมากขึ้นกว่า 85 บริการ