บีบซื้อ “สับปะรด” 7 บาท/กก. ขู่ปิด รง.หนี

06 ธ.ค. 2563 | 14:35 น.

​​​​​​​นายกสมาคมอุตสาหกรรมสับปะรดไทย โอดตลาดหด อ่วมพิษโควิด ยังโดน “จังหวัด-สภาเกษตรฯ” บีบรับซื้อสับปะรด 7 บาท/กก. ไม่ไหว ขู่ปิดโรงงานหนี ขณะที่ สภาเกษตรกร ลุ้น กล่อม รง.ใหม่ 7 ธันวาคม

วิรัช ปิยพรไพบูลย์

 

นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมสับปะรดไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  ถึงสถานการณ์สับปะรด ราคา วันนี้ 6 ธ.ค.2563 เฉลี่ยสับปะรด 6  บาท/กิโลกรัม ซึ่งขายล่วงหน้าไปเรียบร้อยแล้ว กำลังรอคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะมีมาเมื่อไร เพราะทางลูกค้าเทรดเดอร์แจ้งว่า เชลฟ์วางขายสินค้าในห้างฯขายของได้น้อยลงมาก แล้วจะทำอย่างไร ราคาขณะนี้โรงงานเองก็ไม่ได้มีกำไร เสมอตัวมากกว่า หากปรับเพิ่มอีก 1 บาท/กิโลกรัม เป็น 7 บาท/กิโลกรัม ยอมรับว่า ไม่ไหว ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงปิดโรงงานทิ้งดีกว่า

 

ส่วนโรงงานที่บอกว่าสามารถรับซื้ออยู่กิโลกรัมละ 7 บาท/กิโลกรัม ก็มีจริง แต่รับได้จำกัด เฉพาะเกษตรกรที่ทำสัญญาคอนเท็กซ์ฟาร์มมิ่งเท่านั้น แต่ก่อนหน้านั้นที่ราคาสับปะรดปรับขึ้นไปสูงกว่า 10-12 บาท/กิโลกรัม ก็รับซื้อแค่ 7 บาท/กิโลกรัม เกษตรกรก็หนีไม่ส่งโรงงาน ไปส่งนอกโรงงานจำนวนมาก พอราคาปรับทางจังหวัด และสภาเกษตรกรแห่งชาติ จะต้องคำนึงว่าเมื่อโรงงานรับซื้อไปแล้ว ไม่รู้จะไปขายที่ไหน จะหาตลาดให้หรือไม่ หรือจะหาส่วนต่างมาชดเชยโรงงานได้อย่างไร เพราะโรงงานรับไม่ไหวจริงๆ เราไม่อยากเป็นศัตรูกับเกษตรกร เพราะส่วนหนึ่งผม ก็เป็นเกษตรกร ได้ปลูกสับปะรดเช่นเดียวกัน ดังนั้น ผมก็มี 2 สถานะ ก็มองว่า ราคา 6 บาท/กิโลกรัม เกษตรกรพออยู่ได้ โรงงานก็พอรับไหว แต่ถ้าสูงกว่านี้ก็รับไม่ได้

 

นายวิรัช กล่าวว่า ค่าเงินบาท ก็แข็งมาก อยากเสนอให้ทางรัฐบาลมีการควบคุมให้เงินบาทอยู่โดยประมาณ 31 กว่า -32 บาท อย่าให้แข็งมาก  ขอความเห็นใจทั้งทางจังหวัด เกษตรกร และสภาเกษตรกรแห่งชาติ ว่าตอนนี้โรงงานก็สถานะย่ำแย่ปิดไปหลายโรงงานแล้ว ตอนนี้คำสั่งซื้อก็ไม่มี สินค้าก็ส่งไปหมดแล้ว ถ้าถึงที่สุดแล้ว ไปไม่ได้ ก็ต้องปิด หรือไม่ ทางจังหวัดก็หาตลาดให้ แล้วจ้างโรงงานเป็นผู้ผลิต ซึ่งโรงงานก็ยินดีที่จะรับจ้างเป็นผู้ผลิต แต่เงื่อนไขต้องใช้เครื่องจักรและคนงานของโรงงาน ซึ่งก็จะเป็นทางออกที่ทำให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ ย้ำ ไม่อยากเป็นศัตรูกับเกษตรกร ไม่ได้โจมตีรัฐบาล แต่อยากจะแจงเหตุผลว่าทำไมโรงงานรับซื้อสับปะรด 7 บาท/กิโลกรัม ไม่ไหว ดังนั้นในวันที่ 7 ธันวาคม 2563 คงไม่ไปร่วมการประชุม

 

 

 

อานนท์ โลดทนงค์

 

ขณะที่นายอานนท์ โลดทนงค์ รองประธานสภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเลขาธิการสมาคมชาวไร่สับปะรดไทย  เผยผลการประชุมคณะกรรมการไตรภาคีส่งเสริมและพัฒนาสับปะรด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  (4 ธ.ค.63) ที่ประชุมร้องขอให้โรงงานสับปะรดซื้อผลผลิตในราคา 6.50-7.00 บาท สำหรับโรงที่ซื้อต่ำจากราคานี้ให้ปรับขึ้นมา ซึ่งตอนนี้โรงงานยังไม่มีปัญหาเรื่องตลาด เพียงแต่ขาดแคลนแรงงานโรงงานที่เข้าประชุมเห็นด้วย (มีโรงงานที่เข้าประชุม 3 โรงงานจาก 10 โรงงาน)  ยังหาข้อยุติยังไม่ได้ จะมีการนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 7 ธันวาคม นี้ พร้อมเชิญโรงงานทุกโรงงานเข้าร่วม และในที่ประชุมเสนอให้มีการประเมินตัวเลขปริมาณผลผลิตที่จะเก็บเกี่ยวในปี 64 รวมทั้งกำลังการผลิตของโรงงานและคาดการณ์ตลาดที่รองรับได้ หากมีส่วนเหลือจะได้เตรียมวางแผนแก้ไขโดยเร่งด่วนต่อไป โดยเสนอให้มีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าระหว่างเกษตรกรกับโรงงานเพื่อลดความเสี่ยงและเป็นการแก้ไขปัญหาผลผลิตล้นกำลังการผลิตของโรงงานและเกินความต้องการของตลาด ขอให้ซื้อในราคา 7 บาท/กิโลกรัม