“สตีล ซิตี้”เล็งยอดขายปีนี้ 450 ล. ประกาศแผนสู่ปี 64 ตอกย้ำเบอร์ 1

29 ต.ค. 2563 | 06:10 น.

"สตีล ซิตี้" คาดปีนี้ทำรายได้ 450 ล้าน ลดลง 50% จากผลกระทบโควิด ประกาศแผนก้าวสู่ ปี 2564 เดินหน้าขยายตลาดผู้ผลิตอุปกรณ์ติดตั้งระบบท่อร้อยสายไฟ ตอกย้ำเบอร์ 1 แบรนด์อุปกรณ์ท่อร้อยสายไฟเหล็ก

จากการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในปี 2563 เกือบทุกหมวดหยุดชะงักรวมถึงในอุตสาหกรรมเหล็ก ที่ผู้ประกอบการในชื่อแบรนด์ของคนไทย Steel City (สตีล ซิตี้) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายท่อร้อยและอุปกรณ์ตัวยึดสายไฟเหล็กครบวงจรรวมไปถึงอุปกรณ์บ็อกซ์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการมาตลอด 3 ทศวรรษ ปัจจุบันธุรกิจกุมบังเหียนโดยนายเลิศพงษ์ ศรีวงศ์ทอง ผู้บริหารธุรกิจรุ่นที่ 2 ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ในนามบริษัท ดี.อาร์.อินดัสเตรียล จำกัด ได้ประกาศสานต่อธุรกิจ โดยคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมเหล็กในช่วงปลายปีนี้ จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น

 

โดยนายเลิศพงษ์ กล่าวว่า สินค้าของสตีล ซิตี้ยังมีความต้องการสูง ผลจากประเทศไทยมีการลงทุนในโครงการระบบคมนาคม และระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มสินค้าอุปกรณ์ติดตั้งท่อร้อยสายไฟที่ทำจากเหล็กนั้นสตีล ซิตี้ เป็นชื่อแรก ๆ ที่โครงการใหญ่ระดับชาติให้การยอมรับด้วยคุณภาพและชื่อเสียงที่สั่งสมมานาน นอกจากนี้มีกลุ่มลูกค้าในแทบทุกภาคส่วนที่ใช้ไฟฟ้า เช่น กลุ่มภาคโรงงานอุตสาหกรรม โครงการศูนย์การค้า และโครงการที่อยู่อาศัยระดับชั้นนำอีกหลาย ๆ แห่งให้ความเชื่อมั่นคุณภาพอุปกรณ์ท่อร้อยสายไฟเหล็กของบริษัท

 

“สตีล ซิตี้”เล็งยอดขายปีนี้ 450 ล. ประกาศแผนสู่ปี 64 ตอกย้ำเบอร์ 1

“ปีที่ผ่านมาสตีล ซิตี้ คือแบรนด์ชั้นนำในตลาดอุปกรณ์ติดตั้งระบบท่อร้อยสายไฟจากเหล็ก โดยได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ติดตั้งในระบบโครงสร้างขนาดใหญ่ต่าง ๆ ที่มีมูลค่าการก่อสร้างหลายหมื่นล้านบาท ทั้งโครงการภาครัฐและเอกชน เช่น โครงการโรงผลิตไฟฟ้าทั่วประเทศของ GULF ที่ควบคุมโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และโครงการใหญ่ที่มีการขยายงาน เช่น ปตท, IRPC หรือ ไทยออยล์ ซึ่งนับว่าได้ให้โอกาสเราเติบโตเป็นอย่างดีเสมอมา”

 

สำหรับธุรกิจเหล็กในครึ่งหลังของปี 2563 ยอมรับว่า มีการแข่งขันสูงขึ้นอย่างมาก เพราะภาคธุรกิจหลายด้านหยุดชะงักและชะลอตัว  โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์ล้วนได้รับผลกระทบหนักจากสถานการณ์โรคระบาดที่สร้างผลกระทบต่อเนื่องแบบโดมิโนไปยังธุรกิจอื่น ๆ กลุ่มผู้บริโภคล้วนคำนึงถึงการใช้จ่ายที่ต้องรัดกุม และคุ้มค่าที่สุด ในภาวะตลาดที่หดตัวครั้งนี้ และลูกค้ามีความคาดหวังต่อผลิตภัณฑ์และมองหาสินค้าคุณภาพสูงมากขึ้น ทำให้ผู้ผลิตต้องรักษามาตรฐานและคอยพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา

 

ดังนั้นการสร้างความเชื่อมั่น คือ กลยุทธ์สำคัญที่สุดทางการตลาดโดยบริษัทเน้นนโยบายในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่กลุ่มผู้ใช้ได้มีความเข้าใจในการเลือกใช้ และติดตั้งอุปกรณ์ติดตั้งท่อร้อยสายไฟอย่างถูกต้อง

 

“สตีล ซิตี้”เล็งยอดขายปีนี้ 450 ล. ประกาศแผนสู่ปี 64 ตอกย้ำเบอร์ 1

สำหรับแผนการตลาดและแผนลงทุนครึ่งปีหลัง สตีล ซิตี้ได้มองหาช่องทางและโอกาสใหม่มีการเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าและสร้างพันธมิตรในด้านต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมเหล็ก โดยให้ความสนใจในงานสถาปัตยกรรม ที่เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เน้นเรื่องความสวยงาม และคงทน ในอนาคตมุ่งพัฒนาผลิตเฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ในบ้านที่ทำจากเหล็กที่ผลิตจากโรงงานของสตีล ซิตี้ ได้อย่างครบวงจร เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับท่อร้อยสายไฟเหล็กที่ผู้บริโภคเลือกเป็นอันดับแรกในไทย โดยตั้งเป้าสร้างรายได้ 50% มีมูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท เป็นอย่างน้อยจากการลงทุนกว่า 250 ล้านบาท ในปีนี้

 

เกี่ยวกับ "STEEL CITY (สตีล ซิตี้)"

ผู้ผลิตงานหล่อหลอม เหล็กหล่อ อะลูมิเนียม ซิงค์ ทองแดง ทองเหลือง และจัดจำหน่าย อุปกรณ์ท่อร้อยสายไฟ สำหรับท่อร้อยสายไฟเหล็ก ชนิดท่อบาง EMT ท่อหนา IMC และท่อหนาอาบสังกะสี RSC เป็นต้น ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ตอบโจทย์ทุกความต้องการของการออกแบบระบบท่อร้อยสายไฟให้เหมาะสมกับทั้งบ้านพักอาศัย, โรงงานอุตสาหกรรม หรืองานโครงสร้างขนาดใหญ่ สินค้าแบรนด์ STEEL CITY ได้รับการอนุมัติและเป็นที่ยอมรับให้ใช้ติดตั้งในโครงการต่างๆ ในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น โรงผลิตไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง, สนามบินสุวรรณภูมิ, รถไฟฟ้า BTS, รถไฟใต้ดิน MRT, BITEC, ABB Limited (Singapore)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โควิดฉุดใช้เหล็ก 8 เดือนวูบหนัก

อุตสาหกรรมเหล็กเฮ กฎหมาย AC คลอด เริ่มใช้ ธ.ค.นี้