พาณิชย์ก้าวสู่ปีที่ 101 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในและตปท.

20 ส.ค. 2563 | 08:54 น.

“จุรินทร์”ประกาศนำ “พาณิชย์” ก้าวสู่ปีที่ 101 เน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ รับมือวิกฤตโควิด-19 และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เตรียมเดินหน้าลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชนเพิ่ม แย้มลดราคาล็อต 7 ล็อต 8 มาแน่ เร่งช่วยเกษตรกร ผู้ประกอบการทำมาค้าขาย ชูออนไลน์เบิกทางรับยุค New Normal พร้อมดันส่งออก เร่งการค้าชายแดน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานจัดกิจกรรมวันครบรอบ 100 ปีกระทรวงพาณิชย์ ว่า กระทรวงพาณิชย์กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 101 ซึ่งแผนการทำงานจะยังคงเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้กำลังเผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ทั้งจากปัญหาสงครามการค้าที่ยังไม่เลิกรา ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กระทบทุกประเทศทั่วโลก และยังมีปัจจัยภายในประเทศที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์จึงต้องปรับตัวการทำงานครั้งใหญ่ เพื่อรับมือกับวิกฤตที่เกิดขึ้น
พาณิชย์ก้าวสู่ปีที่ 101  ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในและตปท.
         
ทั้งนี้ ในด้านการดูแลเศรษฐกิจการค้าในประเทศ จะเดินหน้าดูแลเกษตรกร ให้สามารถขายผลผลิตทางการเกษตร ดูแลผู้ประกอบการทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ให้สามารถทำธุรกิจต่อไปได้ โดยขณะนี้รูปแบบการค้าเปลี่ยนไป ระบบการค้าออนไลน์เข้ามามีส่วนสำคัญ ซึ่งจะเร่งเข้าไปช่วยเพิ่มความรู้ เพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการใช้การค้าออนไลน์ ทั้งการค้าในประเทศและขยายจนถึงการส่งออก 
         

“ตอนนี้เงินงบประมาณที่รัฐบาลมีอยู่ และเงินจากพ.ร.ก.เงินกู้ ก็มุ่งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เป็นหัวใจสำคัญในขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ก็เช่นกัน จะมุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก กระตุ้นให้เกิดการบริโภค เพราะจะพึ่งการลงทุนภาครัฐอย่างเดียวคงไม่ได้”

พาณิชย์ก้าวสู่ปีที่ 101  ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในและตปท.

ส่วนการดูแลค่าครองชีพ ยังเป็นเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องของการกระตุ้นการบริโภคที่ปัจจุบันยังมีปัญหาชะลอตัว ซึ่งจะหาทางผลักดันให้มีการบริโภคมากขึ้น โดยโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ล็อตที่ 7 ล็อตที่ 8 จะมีมาแน่ นอกจากจะลดราคาสินค้าแล้วยังจะมีการลดค่าบริการด้วย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริโภค ช่วยลดค่าครองชีพ และช่วยเหลือภาคธุรกิจให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
         

นายจุรินทร์กล่าวว่า ด้านต่างประเทศ จะยังคงผลักดันการส่งออกต่อไป แต่รูปแบบอาจจะต้องปรับเปลี่ยนเป็นช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยมีทูตพาณิชย์ทำหน้าที่เป็นเซลส์แมนในต่างประเทศ และพาณิชย์จังหวัดเป็นเซลส์แมนในต่างจังหวัด และจะเร่งขับเคลื่อนการค้าชายแดน เพราะจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มยอดการส่งออกในภาพรวม โดยจะเร่งผลักดันให้มีการเปิดด่านการค้าเพิ่มขึ้น และเปิดด่านการค้าใหม่ๆ ทั้งด้านมาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาวและกัมพูชา และหาทางขยายไปจนถึงเวียดนามและจีนตอนใต้

ขณะเดียวกัน จะเร่งเจรจาการค้าทั้งทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อเปิดตลาดการค้าให้กับไทย โดยที่อยู่ในแผน ก็คือ การาเจรจาทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับสหภาพยุโรป (อียู) และอังกฤษ รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่มีโอกาส และจะเจรจาลงลึกไประดับรัฐ มณฑล เพื่อเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน เช่น มณฑลไหหลำของจีน ซึ่งเป็นเมืองรีสอร์ต และรัฐเตลังกานา อินเดีย เป็นต้น