สถิติอุบัติเหตุบนทางหลวงเดือน พ.ค. 63 ลดลง 13%

22 มิ.ย. 2563 | 07:53 น.

ทล.เผยอุบัติเหตุบนทางหลวงเดือน พ.ค. 63 ลดลง 13% ด้านภาคอีสานแซงโค้งเกิดอุบัติเหตุสูงถึง 23% ขณะที่ทางหลวงหมายเลข 7 ถนนศรีนครินทร์ – บางปะกง พบอุบัติเหตุถึง 59 ครั้ง

รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) โดยสำนักอำนวยความปลอดภัย  เปิดเผยถึงรายงานข้อมูลอุบัติเหตุบนทางหลวงทั่วประเทศประจำ  เดือนพฤษภาคม 2563 จากการรายงานอุบัติเหตุทางระบบ HAIMS พบว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นบนทางหลวงในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง จำนวน 1,042 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 175 คน ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 776 คน จำนวน  รถที่เกิดอุบัติเหตุ 1,527 คัน เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของกรมทางหลวงเสียหายประมาณ 12 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบสถิติอุบัติเหตุประจำเดือนพฤษภาคม 2562 จำนวนอุบัติเหตุลดลงจากปีที่ผ่านมา 13% ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 17% บาดเจ็บลดลง 29% จำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุลดลง 14% ซึ่งสาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุมาจากผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ากฎหมายกำหนด 70% (728 ครั้ง) รองลงมาได้แก่ การตัดหน้าระยะกระชั้นชิด 9% (95 ครั้ง) หลับใน 6% (65 ครั้ง) และอุปกรณ์รถบกพร่อง 6% (63 ครั้ง)

 

อ่านข่าว “ศาลาริมทางไม่บังแดด ” โผล่ 114จุด สั่งแก้ทั่วไทย

อ่านข่าว หนุนยางพารา 7 แสนตัน ทำ “เสาหลักนำทาง” ลดอุบัติเหตุ​​​​​​​

สำหรับอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบริเวณทางตรง 64% (663 ครั้ง) ทางโค้งปกติ 14% (144 ครั้ง) และจุดเปิดเกาะกลางถนน 7% (70 ครั้ง) ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ได้แก่ รถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ 44% (665 คัน) รถยนต์นั่ง 21% (322 คัน) และรถจักรยายนต์ 14% (207 คัน) ซึ่งหากจำแนกตามภาคของการเกิดอุบัติเหตุพบว่าเส้นทางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 23% ภาคเหนือ 22% และภาคใต้ 14%  นอกจากนี้ ทางหลวงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ทางหลวงหมายเลข 7 ถนนศรีนครินทร์ บางปะกง จำนวน 59 ครั้ง หากจำแนกตามรายจังหวัดพบว่ากรุงเทพมหานครเกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมาได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดชลบุรี ตามลำดับ

สถิติอุบัติเหตุบนทางหลวงเดือน พ.ค. 63 ลดลง 13%

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้มีมาตรการแก้ไขที่ได้ดำเนินการร่วมกับตำรวจทางหลวงในการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็วยานพาหนะที่วิ่งบนทางหลวง ซึ่งเป็นมาตรการที่สำคัญในการลดและป้องกันอุบัติเหตุ  ที่อาจเกิดขึ้น กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้ทางโปรดขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของท่านและผู้ร่วมทาง รวมถึงป้องกันและลดอุบัติเหตุให้ได้ประสิทธิผลอีกด้วย