ย้ำเอกชน/สหกรณ์พร้อมส่ง “นมโรงเรียน” ทุกรูปแบบ ฝ่าโควิด

วันที่ 17 มิถุนายน 2563 เวลา  นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกลางโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ครั้งที่ 8/2563 พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมบัญชีกลาง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาภาคเอกชน กรุงเทพมหานคร และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดที่เกี่ยวข้อง สาระสำคัญ ดังนี้

“มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 19 พฤษภาคม 2563 เรื่อง โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน มีมติเห็นชอบในแนวทางบริหารจัดการ     เพื่อให้นักเรียนทุกคนที่ได้รับสิทธิได้ดื่มนม จำนวน 260 วันต่อปีการศึกษา ตามประกาศของคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2563 ประกาศ ณ วันที่ 1 เมษายน  พ.ศ. 2563 และ (ฉบับที่ 2) ประกาศ ณ วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2563 จึงมีแนวทางบริหารจัดการ”

ดังนี้ กรณีภาคเรียนที่ 1/2563 เปิดภาคเรียนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ให้นักเรียนบริโภคนมชนิด ยู เอช ที ตามโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม  ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563  กรณีภาคเรียนที่ 1/2563 เปิดภาคเรียนหลังวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 หรือกรณีการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ หรือกรณีการสลับวันมาเรียน ให้นักเรียนบริโภคนมชนิด ยู เอช ที (UHT) ตามโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

 นายสัตวแพทย์สรวิศ  เผย ผลการจัดส่งนมโรงเรียน ระหว่างวันที่ 18 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ให้เข้าดำเนินงานของผู้ประกอบการส่งนมโรงเรียน แนวทางจัดส่งนมโรงเรียนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 พร้อมกับให้รายงานวันที่เด็กมาโรงเรียนให้ดื่มนมตามประกาศฯ และวันที่ไม่มาโรงเรียนให้ดื่มนม UHT เป็นหลัก หรือเดือนแรกให้ดื่มนม UHT โดยลดราคานม UHT ให้เท่ากับนมพาสเจอร์ไรส์หลังจากนั้นพิจารณาตามประกาศฯ ต้องดื่มนมครบ 260 วันต่อปีการศึกษา และกำหนดราคาการจัดซื้อนมแต่ละชนิดตามประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนฯ ปีการศึกษา 2563 ซึ่งจะเสนอคณะกรรมการนมเพื่อเด็กและเยาวชนพิจารณาต่อไป

อย่างไรก็ดีจะมีแนวทางการดำเนินงานและวิธีการปฏิบัติในการบริหารจัดการก่อนการทำบันทึกข้อตกลง MOU ในการซื้อขายน้ำนมโค เพื่อให้มีความสมดุล โดยจะหารือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์  แผนการดำเนินโครงการฯ ประจำปีการศึกษา 2564  รวมถึงผลการจัดสรรสิทธิและจำหน่ายนมโรงเรียน ปีการศึกษา 2563   ทั้งนี้ เพื่อร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการให้มั่นใจได้ว่านักเรียนกลุ่มเป้าหมายทุกคนได้รับสิทธิตามโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนได้ดื่มนมที่มีคุณภาพมาตรฐาน ถูกหลักอนามัย อย่างต่อเนื่องและครบถ้วน