ดร. กัมปนาท บำรุงกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป มอบเงินสนับสนุน 15 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลศูนย์หลักในการรักษาผู้ป่วย COVID-19 จำนวน 24 แห่ง ทั่วประเทศ โดยได้นำร่องมอบเงินสนับสนุนให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี จำนวน 1 ล้านบาท พร้อมสนับสนุนการจัดทำประกันภัยโรค COVID-19 แบบกลุ่ม
นอกจากนี้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดีที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการดูแลผู้ป่วย จำนวน 500,000 บาท โดยมี ดร. กัมปนาท บำรุงกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เป็นผู้แทนบริษัทฯ นำเงินบริจาคดังกล่าวไปมอบให้แก่ ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดี วันนี้( 10 เมษายน 2563)
“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง และยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เอ็กโก กรุ๊ป ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความห่วงใย เพื่อช่วยเหลือคนไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน โดยคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติวงเงินบริจาค จำนวน 15 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลที่เป็นศูนย์หลักในการรักษาผู้ป่วย COVID-19 จำนวน 24 แห่ง ทั่วประเทศ สำหรับการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับเงินบริจาค จำนวน 15 ล้านบาท จะมอบให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ประกอบด้วย โรงพยาบาลศูนย์หลักในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 7 แห่ง แห่งละ 1 ล้านบาท รวม 7 ล้านบาท ได้แก่ รพ.รามาธิบดี รพ.ศิริราช รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รพ.ราชวิถี รพ.พระมงกุฎเกล้า และสถาบัน บำราศนราดูร ในขณะที่เงินบริจาคอีกจำนวน 8 ล้านบาท จะสนับสนุนโรงพยาบาลศูนย์ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งในพื้นที่ที่เอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าดำเนินการ จำนวน 11 แห่ง เช่น จ.นครศรีธรรมราช จ.ระยอง เป็นต้น และในจังหวัดที่มีจำนวนผู้ป่วยสูงเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ จำนวน 6 แห่ง เช่น จ.ปัตตานี จ.สงขลา เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ แอลกกอฮอล์ หน้ากากอนามัย เป็นต้น ให้กับหน่วยงานด้านสาธารณสุขระดับชุมชนที่อยู่รอบโรงไฟฟ้าในกลุ่มเอ็กโกด้วย
ดร. กัมปนาท กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังร่วมรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการ ลดโอกาสการแพร่กระจายของโรค COVID-19 และสนองต่อนโยบายของรัฐบาล “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” โดยให้พนักงานที่ประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ ปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย (Work From Home) ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม – 30 เมษายน 2563 ตลอดจนสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ ซอฟแวร์ และระบบการทำงาน ทางออนไลน์เต็มรูปแบบ เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงในการปฎิสัมพันธ์ของพนักงานให้มากที่สุด ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้จัดทำประกันภัยคุ้มครองการติดเชื้อไวรัส COVID-19 แบบกลุ่ม สำหรับพนักงานทุกคนด้วย เพราะความปลอดภัยของพนักงานคือสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก”
ในด้านการดำเนินธุรกิจ เอ็กโก กรุ๊ป ได้เตรียมแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan – BCP) รองรับสถานการณ์ COVID-19 ไว้แล้วเช่นกัน เพื่อให้ตลอดห่วงโซ่ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง และโรงไฟฟ้าทั้ง 28 แห่งในกลุ่มเอ็กโก ทั้งในและต่างประเทศ สามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้อย่างราบรื่น เพื่อสร้างความมั่นใจว่าประชาชนจะมีไฟฟ้าใช้ไม่ขาดแคลนในทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้อง