กฟผ.จัดเงิน 30 ล.หนุนโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยโควิด-19

27 มี.ค. 2563 | 07:40 น.

กฟผ. มอบเงินสนับสนุนโรงพยาบาลศูนย์หลักในการรักษาผู้ป่วย COVID-19 7 แห่ง หลังบอร์ดอนุมัติ 30 ล้าน

นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ กฟผ. ได้อนุมัติวงเงิน จำนวน 30 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือโรงพยาบาล สังคม และชุมชน โดยเงินจำนวน 15 ล้านบาท ได้มอบให้แก่โรงพยาบาลที่เป็นศูนย์หลักในการรักษาผู้ป่วย COVID-19 จำนวน 7 แห่ง สำหรับสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างคล่องตัวและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ครบครัน ไปเมื่อวันที่ 26 – 27 มีนาคม 2563 ได้แก่

กฟผ.จัดเงิน 30 ล.หนุนโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยโควิด-19

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แห่งละ 2 ล้านบาท และสถาบันบำราศนราดูร จำนวน 3 ล้านบาท และสำหรับเงินอีก 15 ล้านบาท สำหรับให้ความช่วยเหลือโรงพยาบาลในต่างจังหวัด สังคม ชุมชน รอบเขต เขื่อน โรงไฟฟ้า กฟผ. ทั่วประเทศ ตามความต้องการของพื้นที่ อาทิ อุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้ากากอนามัย เจลอนามัย เป็นต้น

กฟผ.จัดเงิน 30 ล.หนุนโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยโควิด-19

จากสถานการณ์ COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาด กฟผ. ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความห่วงใย เพื่อช่วยเหลือคนไทยให้ผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตนี้ไปด้วยกัน”

ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลศูนย์ฯ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก กฟผ. กล่าวว่า ต้องขอบคุณ กฟผ. และทุกหน่วยงานที่มาร่วมแสดงน้ำใจ ด้วยตอนนี้ทุกอย่างมีค่าหมด เพราะไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์จะยาวนานแค่ไหน และฝากขอให้ทุกคนตระหนักถึงระยะห่างที่เราควรมีต่อกัน สิ่งที่จะหยุดการระบาดของโรคได้ดีที่สุด คือการเก็บตัวอยู่ในที่พักอาศัย และการรักษาระยะห่างระหว่างกันโรคติดต่อจะไม่ติดต่อ ถ้าเราไม่ติดต่อกัน  ซึ่งโรงพยาบาลศิริราชได้จัดกิจกรรมรณรงค์ดังกล่าวทางเฟสบุ๊ก

กฟผ.จัดเงิน 30 ล.หนุนโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยโควิด-19

นอกจากนี้ กฟผ. ยังได้มอบเจลอนามัย น้ำใจ กฟผ. ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
ไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ โดย กฟผ. ผลิตขึ้นเอง รวมทั้งหน้ากากอนามัย ซึ่งได้มอบให้แก่ชุมชนโดยรอบ กฟผ. และประชาชนกลุ่มเสี่ยง อาทิ ตำรวจ พนักงานขับรถขนส่งสาธารณะ มูลนิธิเด็กและเยาวชน รวมถึงมอบคอมพิวเตอร์ให้แก่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมสนับสนุนการสื่อสารให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารสถานการณ์
การแพร่ระบาด COVID-19 อย่างถูกต้องอีกด้วย