ตรุษจีนปีนี้คนใช้จ่ายติดลบครั้งแรกในรอบ12ปี

ตรุษจีนปี63 เงียบประชาชนจับจ่ายลดลง1.30% เป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ12ปี เหตุประชาชนกังวลภาวะเศราฐกิจชะลอตัว ภัยแล้ง และพีเอ็ม2.5

นางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 63 ว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,203 ตัวอย่างพบการใช้จ่ายในช่วงตรุษจีนมีมูลค่า 57,639 ล้านบาท ติดลบ 1.30% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเป็นมูลค่าติดลบครั้งแรกในรอบ 12 ปี นับจากที่มีการสำรวจมา  เนื่องจากประชาชนกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ภัยแล้งที่ และปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือพีเอ็ม2.5 ทำให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น  รวมทั้งวางแผนเดินทาง ท่องเที่ยวน้อยลงทั้งๆที่ประชาชนจำนวนมากยังมีเงิน

“บรรยากาศการไหว้เจ้าการทำบุญและการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆในช่วงเทศกาลตรุษจีนก็ถือว่ายังมีความคึกคักเช่นเดิมและประเมินแล้วหลายพื้นที่อาจคึกคักมากกว่าเดิมแต่ในภาพรวมพบว่าแม้คนจะไปร่วมกิจกรรมจำนวนมากแต่ก็ลดปริมาณซื้อลงเช่นเดิมเคยซื้อ 10 ชิ้นก็จะเหลือ 8 ชิ้น  หรือบางคนไปร่วมกิจกรรมแต่แทบจะไม่ได้ใช้จ่ายอะไรมากนักทั้งๆที่มีเงิน”

นอกจากนี้ยังได้สำรวจทัศนะของผู้ประกอบการในช่วงเทศกาลตรุษจีน 600 ตัวอย่างพบว่าส่วนใหญ่มองว่าบรรยากาศช่วงเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ คึกคักน้อยกว่าปีที่ผ่านมา 44.5% ส่งผลให้บรรดาห้างร้านต่างๆ จำเป็นต้องมีการจัดทำโปรโมชันลด แลก แจก แถมเพื่อจูงใจให้คนหันมาซื้อสินค้า

ขณะเดียวกันก็ได้มีการสำรวจกรณีที่เป็นผู้ให้เงินแต๊ะเอียในปีนี้พบว่า ผู้ให้แต๊ะเอียลดลงจากปีก่อน 45.2%   ส่วนยังให้เหมือนเดิม 50.7% และให้มากขึ้น 4.1%   ส่วนผู้รับเงินแต๊ะเอียส่วนใหญ่ก็จะนำไปเก็บออม รองลงมาเป้นการซื้อเครื่องแต่งกาย ไปเที่ยว และซื้อเครื่องประดับ เป็นต้น   ส่วนสถานที่ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนอยากไปสักการะและขอพรมากที่สุด เช่น ศาลเจ้าพ่อเสือ กรุงเทพฯ, วัดเล่งเน่ยยี่ กรุงเทพฯ, วัดบำเพ็ญจีนพรต กรุงเทพฯ, ศาลเจ้านาจาซาไท้จื้อ ชลบุรี, ศาลเจ้าแม่กวนอิม เป็นต้น