ก.อุตฯส่งระบบกักเก็บน้ำช่วย SMEs แก้ปัญหาภัยแล้ง

15 ม.ค. 2563 | 07:05 น.

กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าแก้ปัญหาภัยแล้งมอบระบบกักเก็บน้ำช่วยเอสเอ็มอี นำร่อง 10 หมู่บ้าน ในจังหวัดชัยภูมิ ลดการซื้อน้ำกว่า 5 ล้านลิตรต่อปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 แสนบาท

นางสาวสุชาดา  แทนทรัพย์  โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงฯได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)ดำเนินมาตรการรับมือวิกฤตภัยแล้งด้วยกลไกประชารัฐ โดยมีมาตรการสำคัญและเร่งด่วนในการรับมือกับสถานการณ์วิกฤตภัยแล้งในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงมาตรการในการลดความเดือดร้อนจากสภาวะเศรษฐกิจผันผวน โดยสนับสนุนสินเชื่อ การสร้างงานสร้างอาชีพ และการสร้างโอกาสทางการตลาดรวมถึงการส่งเสริมการลงทุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชนสามารถปรับตัวและรับมือกับวิกฤตการและสภาวะดังกล่าวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 

ก.อุตฯส่งระบบกักเก็บน้ำช่วย SMEs แก้ปัญหาภัยแล้ง
                ทั้งนี้  กสอ. ได้ดำเนินกิจกรรมผ่านการสนับสนุนอุปกรณ์ภาชนะในการกักเก็บน้ำและถ่ายทอดองค์ความรู้การสร้างภาชนะกักเก็บน้ำ การบริหารจัดการน้ำเพื่อใช้ผลิตและอุปโภคบริโภคในระดับครัวเรือนและระดับชุมชนในท้องถิ่น รวมถึงกิจกรรมการสนับสนุนสินเชื่อแก่เอสเอ็มอี ผ่านกองทุนพัฒนา SME ตามแนวประชารัฐ กิจกรรมการส่งเสริมสนับสนุนเอสเอ็มอี ด้านการตลาดทั้งในรูปแบบออนไลน์ ด้วยอีคอมเมิร์ซ และแบบออฟไลน์ ด้วยการจัดกิจกรรมการจำหน่ายสินค้า

รวมทั้งกิจกรรมสร้างโอกาสทางการตลาดและส่งเสริมการลงทุน เพื่อเป็นการสร้างและขยายโอกาสทางการตลาดกับต่างประเทศ  ซึ่ง กสอ. ได้กำหนดมาตรการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ผ่านกิจกรรมนำร่องระบบกักเก็บน้ำเพื่อวิสาหกิจชุมชนและราษฎร ซึ่งมีวัตถุประสงค์  เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความรับรู้การจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับกักเก็บน้ำเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้  เพื่อผลิต ประกอบการ และอุปโภคบริโภค และพัฒนาทักษะฝึกวิธีคิดการพัฒนาตนเองให้สามารถเข้าใจ  และตระหนักถึงการบริหารจัดการน้ำ และการใช้น้ำเพื่อประโยชน์สูงสุด

ก.อุตฯส่งระบบกักเก็บน้ำช่วย SMEs แก้ปัญหาภัยแล้ง

การดำเนินกิจกรรมนำร่องระบบกักเก็บน้ำเพื่อวิสาหกิจชุมชนและราษฎร สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดให้กับเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน หรือแม้แต่ในระดับครัวเรือนในพื้นที่ต่างๆ ช่วยลดการสูญเสียโอกาสทางการค้า สร้างรายได้และเพิ่มศักยภาพในการผลิตผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชน
 

นายณัฐพล  รังสิตพล  อธิบดี กสอ.กล่าวว่า ได้กำหนดมาตรการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ภายใต้กิจกรรมนำร่องระบบกักเก็บน้ำเพื่อวิสาหกิจชุมชนและราษฎร และได้คัดเลือกพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติภัยแล้ง โดยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบกว่า 16 อำเภอ 120 ตำบล 1,542 หมู่บ้าน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1,100 ล้านบาท ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สำหรับเกษตรกรรม ขณะเดียวกันประชาชนในพื้นที่ยังประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำในการอุปโภค บริโภคด้วย 

ก.อุตฯส่งระบบกักเก็บน้ำช่วย SMEs แก้ปัญหาภัยแล้ง

ภายใต้การดำเนินกิจกรรมนำร่องระบบกักเก็บน้ำเพื่อวิสาหกิจชุมชนและราษฎรดังกล่าว ได้มีการนำร่องระบบกักเก็บน้ำที่เหมาะสมสำหรับสำรองน้ำให้ครอบคลุมความต้องการใช้น้ำในการผลิตสินค้าเกษตรกรรม การแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และการอุปโภคบริโภคของกลุ่มวิสาหกิจและประชาชนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 10 หมู่บ้านนำร่อง ทั้งในพื้นที่ อำเภอเมือง อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอหนองบัวระเหว และอำเภอจัตุรัส โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำกว่า 5,037,000 ลิตรต่อปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 270,660 บาทต่อปี อีกทั้งยังสามารถลดการสูญเสียโอกาสในการเพิ่มยอดขายกว่า 22,000,000 บาทต่อปี  โดย กสอ. จะยังดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ประสบภัยแล้ง ทั้งการสร้างระบบกักเก็บน้ำ และการฝึกอาชีพ โดยมีเป้าหมายทั้งสิ้น 10,000 ครัวเรือน