ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา เพิกถอนมติของคณะกรรมการคัดเลือกโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ที่ไม่รับซองข้อเสนอซองที่ 2 (กล่องที่ 6) ซึ่งเป็นข้อเสนอทางเทคนิคและแผนธุรกิจและซองที่ 3 (ข้อเสนอกล่องที่ 9) ซึ่งเป็นข้อเสนอด้านราคาของบริษัท ธนโฮลดิ้งฯ บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี กับพวกรวม 5 คน ในการยื่นซองเข้าร่วมโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่า 2.9 แสนล้าน เนื่องจากยื่นเอกสารเลยระยะเวลาตามที่กำหนด
การพิจารณาของศาลดังกล่าว ส่งผลให้กลุ่มธนโฮลดิ้ง กลับเข้ามามีสิทธิในการประมูลอีกครั้ง และคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะไปดำเนินการเปิดซองข้อเสนอแต่ละซองต่อไป หลังจากที่ได้เปิดซองที่ 1 ด้านคุณสมบัติ และซอง 2 ด้านเทคนิค และซอง 3 ด้านราคา ของผู้ยื่นประมูลทั้ง 2 กลุ่มไปแล้ว ได้แก่ กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส (BBS Joint Venture) หรือกลุ่มบีทีเอส และกลุ่ม Grand Consortium
แนะบีทีเอสฟ้องกลับ
นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า การให้สิทธิ กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด หรือกลุ่มซีพี และพันธมิตร กลับสู่กระบวนการประมูลสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบิน อาจขัดต่อพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดซื้อจัดจ้างงานรัฐ เพราะกฎหมายระบุชัดเจน บนพื้นฐานความเป็นธรรม หากยื่นเอกสารการประมูลเลยเวลาที่กำหนดเพียงเสี้ยววินาทีเดียว จะถูกตัดสิทธิไม่รับซอง แต่กรณีกลุ่มซีพียื่นช้าไปถึง 9 นาที ทำให้เกิดความวุ่นวาย และเป็น 2 มาตรฐานเกิดขึ้น
ทั้งนี้ เห็นว่า กลุ่มบีทีเอส และกลุ่ม Grand Consortium ในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประมูลโครงการ และกรมบัญชีกลาง ในฐานะเจ้าของกฎหมาย ควรยื่นฟ้องศาล เพื่อไม่ให้เกิดบรรทัดฐานใหม่ ซึ่งมั่นใจว่ากลุ่มบีทีเอส กำลังมองหาช่องฟ้องกลับ เกี่ยวกับการปฏิบัติขัดต่อกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างโครงการนี้อยู่
“พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ทุกคนทราบการยื่นเอกสารช้าไป 1 วินาที 1 นาที เค้าไม่รับซอง ขณะเดียวกันเอกชนรับทราบข้อกำหนดและเวลาที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมบนพื้นฐานความเป็นธรรม”
กลุ่มแกรนด์ฯจุกนํ้าท่วมปาก
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลุ่มแกรนด์ คอนซอร์เตียม ประกอบด้วย บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) บมจ.คริสเตียนี และนีลเส็น(ไทย) และบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ยอมรับคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดที่คืนสิทธิให้กลุ่มธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ได้ไปต่อในโครงการประมูลสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เพราะคำพากษาของศาลปกครองสูงสุด ถือว่าศาลตัดสินสิ้นสุดแล้ว
จากนี้คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะต้องนำข้อเสนอซองที่ยื่นเกินเวลาไป ของกลุ่มธนโฮลดิ้งมาพิจารณาต่อไป ซึ่งกลุ่มแกรนด์ คอนซอร์เตียม ไม่สามารถไปฟ้องร้องอะไรได้อีก เนื่องจากหากฟ้องก็จะเป็นการฟ้องคดีซํ้า เพราะเป็นประเด็นเดียวกับที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ ซึ่งเป็นคู่กรณีกับกลุ่มธนโฮลดิ้ง แพ้คดีไป
ดังนั้น คงต้องรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ต่อไป ซึ่งที่ผ่านมามีการเปิดซองข้อเสนอราคา(ซอง 3) ของกลุ่มแกรนด์ คอนซอร์เตียม และกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอสไปแล้ว ต่อไปทางคณะกรรมการคัดเลือกฯ ก็ต้องเปิดซอง 3 ของกลุ่มธนโฮลดิ้ง ที่มีการจัดเก็บไว้อยู่แล้ว ตั้งแต่วันที่เปิดให้ยื่นซองประมูล การแก้ไขหรือเปลี่ยนซองจะทำไม่ได้ ซึ่งคงต้องรอดูว่ากลุ่มธนโฮลดิ้งจะเสนอราคามาเท่าไหร่
ทั้งนี้ คาดว่าราวเดือนกุมภาพันธ์นี้ น่าจะมีการประกาศผู้ชนะการประกวดราคาได้ ซึ่งผู้เสนอผลตอบแทนในการยื่นประมูลสูงสุด ไม่ได้หมายว่าจะต้องเป็นผู้ชนะการประมูลเสมอไป เพราะต้องมีการพิจารณาในเรื่องของความเป็นไปได้ในการเสนอราคาด้วยว่า สามารถทำได้จริงหรือไม่ด้วย
ลุ้นซีพีเสนอเกิน3.05 แสนล.
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยว่า คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ ทางคณะกรรมการคัดเลือกฯจะดำเนินการนัดประชุมเพื่อพิจารณาเอกสารกล่อง 6 (ซอง 2) ของกลุ่มธนโฮลดิ้ง ซึ่งก็มีแนวโน้มสูงว่ากลุ่มธนโฮลดิ้ง จะผ่านคุณสมบัติซอง 2
จากนั้นจะนัดหมายวันเปิดเอกสารกล่อง 9 (ซอง 3) ของกลุ่มธนโฮลดิ้ง โดยจะมีการเชิญเอกชน 2 รายที่มีการเปิด
ซองราคาไปก่อนหน้านี้แล้ว เข้ามาร่วมเปิดราคาของกลุ่มธนโฮลดิ้ง ด้วย ซึ่งซองเอกสารทั้งหมดรวมถึงส่วนที่ยื่นเกินเวลาไป ได้ถูกเก็บไว้ในห้องมั่นคงตั้งแต่วันที่เปิดให้ยื่นประมูล ที่มีเวรยามและเปิดกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
“การที่ศาลปกครองสูงสุด มีมติให้คณะกรรมการคัดเลือกฯรับซองที่เกินเวลาของกลุ่มธนโฮลดิ้งมาพิจารณา จะทำให้กลุ่มธนโฮลดิ้ง เข้าสู่การแข่งขันได้ เช่นเดียวกับกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส และกลุ่มแกรนด์คอนซอร์เตียม หากกลุ่มธนโฮลดิ้ง จะชนะการประมูลได้ จะต้องเสนอผลตอบแทนให้รัฐเกินกว่าหรือใกล้เคียง 3.05 แสนล้านบาท เพราะในการเปิดซอง ราคาของกลุ่มแกรนด์ คอนซอร์เตียม และกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส ก่อนหน้านี้ แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยราคาออกมา แต่วงในทราบดีว่ากลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส เสนอผลตอบแทนอยู่ที่ 3.05 แสนล้านบาท ขณะที่กลุ่มแกรนด์คอนซอร์เตียม เสนอผลตอบแทนราว 1 แสนล้านบาท”
หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,539 วันที่ 12 - 15 มกราคม พ.ศ. 2563