คนไทยรัดเข็มขัด ใช้จ่ายช่วงปีใหม่ต่ำสุดในรอบ12ปี

24 ธ.ค. 2562 | 08:45 น.

ม.หอการค้าฯ เผยพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563  ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 12 ปี เหตุประชาชนกังวลภาวะเศรษฐกิจต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง  อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ควบคุมราคาสินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน จัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ พัฒนาการศึกษา ดูแลค่าครองชีพ

 

ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย   เผยถึง ผลการสำรวจ "พฤติกรรมและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่" ว่า แม้จะยังมีการจับจ่ายโดยคาดว่าปีใหม่ 2563 จะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 137,809 ล้านบาท แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 58,000 ล้านบาท และต่างจังหวัด 79,000 ล้านบาท  เพิ่มจากปี 2562 ที่มีเม็ดเงินสะพัด 135,279 ล้านบาท ซึ่งถือว่าขยายตัวเพียง 1.9% ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 12 ปี สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่อัตราการเติบโต หรือเศรษฐกิจ(จีดีพี)ขยายตัวเพียง 2.6% เนื่องจากประชาชนกังวลภาวะเศรษฐกิจจึงใช้จ่ายอย่างระมัดระวังทั้งนี้ สิ่งที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการปี 2563 คือ แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ควบคุมราคาสินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน จัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ พัฒนาการศึกษา ดูแลค่าครองชีพให้เหมาะสม มีงานทำ  

 คนไทยรัดเข็มขัด  ใช้จ่ายช่วงปีใหม่ต่ำสุดในรอบ12ปี

ด้านนางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่  กลุ่มตัวอย่าง 1,223 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 11-20 ธ.ค. 2562  ว่า ผลการสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่าง 76.8%  มีการวางแผนออกนอกพื้นที่ในช่วงปีใหม่ เพื่อเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด โดย 84.7 % มีการวางแผนท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวมคนละ 15,615 บาท 15.3%  วางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 58,842 บาท  โดยคาดว่าประชาชนจะออกเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงวันที่ 28 ธ.ค. 2562  และกลับวันที่  1 ม.ค. 2563 เฉลี่ยประมาณ 3-5 วัน ไปเที่ยวเฉลี่ย 2-4 คนต่อกลกลุ่ม

 คนไทยรัดเข็มขัด  ใช้จ่ายช่วงปีใหม่ต่ำสุดในรอบ12ปี

นอกจากนี้ยังมีการวางแผนซื้อของขวัญทั้งให้ตนเอง เช่น ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เครื่องประดับ ทอง 16,362  บาท/คน เสี่ยงโชคคนละ  1,115 บาท/คน  ซื้อสินค้าโอท็อป/คน 1,062 บาท  และซื้อของให้ผู้อื่น เช่น สินค้าฟุ่มเฟือย เครื่องประดับ ทอง 5,981 บาท/คน ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 241 บาท/คน สินค้าคงทน (เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเรือน)  3,803 บาท/คน และพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมใช้จ่ายสำหรับตนเองในช่วงปีใหม่ ส่วนใหญ่ 91.1% จะทำบุญทางศาสนา รองลงมา 90.7% สังสรรค์ /จัดเลี้ยง ท่องเที่ยว 76.8%

 

ส่วนของขวัญยอดนิยมในช่วงปีใหม่ คือ ของรับประทาน สินค้าคงทน เครื่องดื่มบำรุงกำลัง  กระเช้าของขวัญ เป็นต้น  โดยมีปัจจัยในการเลือกซื้อของขวัญให้กับตนเองและผู้อื่นคือคุณภาพ ราคา และประโยชน์การนำไปใช้  จากพฤติกรรมการใช้จ่ายดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายอย่างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว อย่างไรก็ตามปัญหาที่รัฐบาลควรแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด คือ เศรษฐกิจโดยรวม ปัญหาสังคม เสถียรสภาพทางการเมือง  ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น  และการเตรียมความพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ และปัจจัยที่น่าห่วงในปี 2563 ยังเป็นปัญหาเศรษฐกิจ  การศึกษา สุขอนามัย ค่าครองชีพ ปัญหาเยาวชน เป็นต้น

 

ส่วนการให้คะแนนในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของรัฐบาลในรอบปีที่ผ่านมาคะแนนเต็ม 10 การเตรียมความพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ ได้ 7.67 คะแนน ปัญหาสังคม 6.23 คะแนน ปัญหาคอร์รัปชั่น 5.81 คะแนน ปัญหาเศรษฐกิจ 5.56 คะแนน ปัญหาโดยรวม 5.44 คะแนน ปัญหาความขัดแย้ง 5.34 คะแนน  และพบว่ากลุ่มตัวอย่างอยากให้ชองขวัญเป็นกำลังใจนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากที่สุด 58.8% นายอนุทิน ชาญวีรกูล 21.5% พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 9.0% นายวิษณุ เครืองาม 5.6%  และอยากเดินทางท่องเที่ยวกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 20.2% พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 18.5% นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 10.4% นายทักษิณ ชินวัตร 8.5% ส่วนนักแสดงชาย ที่ประชาชนอยากให้ของขวัญมากที่สุดคือ ณเดชน์ คูกิมิยะ เกรท วรินทร มาริโอ เมาเร่อ  ฝ่ายหญิงคือ ญาญ่า อุรัสยา อั้ม พัชราภา ใหม่ ดาวิกา  นักร้องชาย ตูน บอดี้สแลม เบริ์ด ธงไชย ไผ่ พงศธร นักร้องหญิง ต่ายอรทัย ปาล์มมี่ อาม ชุติมา  คำอวยพรให้กับประเทศไทยอันดับหนึ่งคือขอให้สมเด็จพระราชินีในร 9 และร.10 ทรงมีพลานามัยแข็งแรง ขอให้เศรษฐกิจดีขึ้น ขอให้ค้าขายดี ๆ เป็นต้น

 คนไทยรัดเข็มขัด  ใช้จ่ายช่วงปีใหม่ต่ำสุดในรอบ12ปี

 

ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้า(2563)จะขยายตัวดีขึ้น เพราะขณะนี้ภาคการท่องเที่ยวเริ่มกระเตื้องขึ้นแล้ว จากจำนวนเที่ยวบินในสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว รวมทั้งมีการย้ายฐานการผลิตจากจีนและไต้หวันหลายอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันรัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ จะต้องประคับประคองบรรยากาศบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อย และไม่มีการประท้วง เป็นต้น และมองว่าปีหน้าเศรษฐกิจน่าจะเริ่มกระเตื้องขึ้นจากปัจจัยบวกต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมองว่ารัฐบาลควรทบทวนนโยบาย No Gift Policy หรือนโยบายภาครัฐไม่รับของขวัญ ซึ่งมองว่าเป็นการทำให้เศรษฐกิจไม่ในระดับรากหญ้าไม่สะพัด  ซึ่งควรกำหนดราคาของขวัญที่เป็นสินค้าโอท็อปไม่เกิน 3,000 บาทเป็นข้อยกเว้นสามารถมอบให้กันได้ เพราะเป็นการช่วยให้ผู้ผลิตสินค้าโอท็อปในจังหวัดต่าง ๆ มีรายได้ ในการจำหน่ายสินค้าโดยเฉพาะในช่วงเทศกาล ซึ่งถือเป็นธรรมเนียม วัฒนธรรมของคนไทยที่มักจะมีของฝากของขวัญให้กันในการแสดงความยินดีต่อกัน

 คนไทยรัดเข็มขัด  ใช้จ่ายช่วงปีใหม่ต่ำสุดในรอบ12ปี