“อุตตม”ลั่นศก.ยังไม่เผาหลอก โตช้าแต่ไม่ถดถอย
วันที่ 11 ธันวาคม 2562 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ร่วมกับกระทรวงการคลัง จัดงานสัมมนา Go Thailand : ปลุกกำลังซื้อฟื้นพลังเศรษฐกิจ ... จุดพลุอสังหาฯ พาไทยติดปีก ณ ห้องบอลรูม โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลุกกำลังซื้อ ฟื้นพลังเศรษฐกิจไทย” ในงานดังกล่าว โดยตอนหนึ่งฉายภาพให้เห็นความจำเป็นในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง เพราะเศรษฐกิจนอกประเทศส่งผลกระทบไปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ตอนนี้อยู่ในภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจนถึงถดถอย ส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจไทย วันนี้เราส่งออกได้เงินกลับมาน้อยลงเพราะกำลังซื้อหายไป อันเนื่องมาจากปัญหาของจีน สหรัฐ เรื่องของอังกฤษจะออกจากยูโรโซน พอเกิดความไม่แน่นอนเศรษฐกิจก็ลงทุนช้า ผู้บริโภคก็เก็บเงิน ก็ขอดูอีกหน่อย พอเป็นอย่างนี้เศรษฐกิจก็ขาดความเชื่อมั่น
“แต่เรียนว่าเราต้องดูข้อเท็จจริงว่าสถานการณ์ของประเทศเป็นอย่างไรเพื่อมีมาตรการดูแลให้เหมาะสม ข้อเท็จจริงคือเศรษฐกิจโลกถดถอย ของไทยเองยังไม่เข้าภาวะถดถอย แต่การขยายตัวช้าลง แต่ไม่ได้ถดถอย เพราะเรื่องเศรษฐกิจถ้าจะพื้นตัวก็มาจากเรื่องความมั่นใจ ความเชื่อมั่น ถ้าเชื่อมั่นว่าอนาคตสดใส วันนี้มีผลกระทบต่อมีทางเดินข้างหน้ามีตัวช่วยก็จะมีกำลังไม่รีรอที่จะช่วยกันจับจ่ายใช้สอย ผู้ประกอบการกล้าลงทุนเพราะมีตัวช่วย ไม่ใช่ว่าเศรษฐกิจปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง ผมไม่เชื่อ ไม่ใกล้เมรุ ยังไม่ใกล้ไม่เฉียดเลย ในภาวะเช่นนี้เราต้องกล้าๆ ถ้ากลัวทุกอย่างก็จะหดตัว”
จากนั้น นายอุตตม เล่าให้เห็นชุดมาตรการของรัฐบาลว่า เวลาดูแลรัฐบาลมองเป็นระบบ ไม่ได้เป็นแต่ละภาคส่วนว่าจะช่วยเฉพาะส่วนนี้ เริ่มจากภาการดูแลฐานรากที่เป็นผู้มีรายได้น้อย ทั้งผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ดูแลตั้งแต่การผลิตเพราะที่ผ่านมาเกิดภัยพิบัติภัยแล้ง น้ำท่วม ที่ช่วย 500 บาทต่อไร่ แต่ไม่เกิน 20ไร่ต่อครอบครัว และช่วยค่าเก็บเกี่ยวที่ผลผลิตลดลงแต่ต้นทุนผลผลิตต่อไร่ไม่ได้ลดลง
ส่วนการดูแลผู้ประกอบการเอมเอ็มอีตั้งแต่รายเล็กและรายกลาง ที่รัฐบาลดูแลอยากให้มีการลงทุน มีสภาพคล่อง เพราะยอดขายบริษัทใหญ่ลดลง ทำให้รายกลางก็เหนื่อย แรงงานที่จ้างก็กระทบลง โอทีลดลง จึงมีสินเชื่อพิเศษและดอกเบี้ยต่ำออกมาช่วย
สำหรับมาตรการชิมช้อปใช้ นายอุตตม กล่าวว่า เพราะต้องการฟื้นเศรษฐกิจให้โตเต็มศักยภาพ หนีไม่พ้นเรื่องการจับจ่ายใช้สอยด้านอุปโภคบริโภค จึงมีชิมช้อปใช้ออกมาเพื่อกระตุ้นให้จับจ่ายใช้สอย ช่วยร้านค้าเล็กๆในชุมชนระดับเล็ก และเข้าใจว่าคนไม่ชอบก็มี แต่ต้องเข้าใจว่าคนได้ประโยชน์มีจำนวนมากทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ เป็นมาตรการที่หลายประเทศใช้หากต้องการดูแลเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียนโดยเร็ว
“เพราะเราเห็นสถานการณ์โลกแล้วไม่รู้จะไปถึงไหนสำหรับเศรษฐกิจโลก จะวางใจได้อย่างไร แต่ทุกมาตรการคิดแล้วรอบคอบอย่างเป็นระบบ มาตรการอย่างไรจะตอบโจทย์”
ส่วนมาตรการด้านที่อยู่อาศัย รมว.คลัง กล่าวว่า บ้านเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานที่เป็นตัวชี้วัดที่แท้จริงของระดับความเจริญของระบบเศรษฐกิจ จึงเปิดกว้างให้กับผู้มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อเดือน เข้าถึงการมีที่อยู่อาศัยและให้เงินทอน 5 หมื่นบ้าน เพื่อให้นำไปจับจ่ายใช้สอยก็ ซึ่งวันนี้ครม.ก็อนุมัติให้ 5 หมื่นบาที่ได้รับคืนไม่ต้องเสียภาษี อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นวันแรกของการลงทะเบียนแล้ว 4 หมื่นกว่าราย
ซึ่งการที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เพราะมีบทบาทสูงในระบบเศรษฐกิจในแทบทุกประเทศ เพราะอสังหาฯยึดโยงกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่การลงทุนผู้ประกอบการทั้งภายในและภายนอกประเทศที่มาลงทุน ทำให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก ต้องใช้คนทำงานในหลายระดับ วิศวกร สถาปนิก ช่างเฉพาะทาง แรงงานก่อสร้าง การผลิตในประเทศ วัสดุก่อสร้างที่คนไทยทำได้ ล้วนเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งนั้น หากอสังหาฯขยายตัวได้ดี การจ้างงานก็ดี เงินก็สะพัด ต่อเนื่องมาถึงแรงงานกลุ่มต่างๆนำไปหมุนวนเวียนเศรษฐกิจทั่วประเทศ ดังนั้นในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ภาคอสังหาก็กระทบด้วย เพราะทุกคนคิดว่าเศรษฐกิจไม่มีความแน่นนอนก็รีรอจะซื้อบ้าน ผู้ประกอบการก็รีรอที่จะลงทุนเพิ่ม แต่ถ้าขายได้เรื่อยๆ หมายถึงประชาชนเข้าถึงการมีที่อยู่อาศัย ก็จะทำให้เกิดการจับจ่าย
ในตอนท้าย นายอุตตม กล่าวถึงการลงทุนของรัฐ ที่ต้องเร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจ 50 กว่าแห่งเร่งลงทุนในไตรมาสสี่กว่า 1 แสนล้านบาท หากลงทุนเศรษฐกิจก็จะหมุนเวียน ซึ่งรัฐวิสาหกิจเขาสัญญาแล้วว่าจะลงทุนแสนล้านภายในไตรมาสสี่ ซึ่งตัวนี้ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจพื้นตัว
“เมื่อทราบข้อมูลแล้วว่าเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างไร ยืนยันว่าผลกระทบเศรษฐกิจทำให้ชะลอตัว แต่เราไม่ได้ถดถอย ชุดมาตรการมี แต่รัฐบาลฝ่ายเดียวไม่ได้ ทุกฝ่ายต้องมาช่วยกันให้ความเชื่อมั่นเกิด และความเชื่อมั่นมีขอให้อย่าหดหู่ “นายอุตตม กล่าว