สรท.ปรับเป้าส่งออกปีนี้ติดลบ2.5-3%
สรท. ปรับเป้าส่งออกปี 62 ติดลบ 2.5- 3% หลังเดือนตุลาคมส่งออกติดลบต่อเนื่อง 4.5 % 10 เดือน ส่งออกไทยติดลบ 2.4% มีมูลค่า 207,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ชี้ติดตามบาทแข็ง และสงครามการค้าค่าเนื่อง ส่วนปีหน้าคาดขยายตัว0-1%
นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท.เปิดเผยสถานการณ์ส่งออกเดือนตุลาคม 2562 มีมูลค่า 20,758 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดลบ 4.5% นำเข้ามีมูลค่า 20,251 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดลบ 7.6% ส่งผลให้เดือนตุลาคม 2562 ไทยเกินดุลการค้า 507 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวม 10 เดือนของปี 2562 ส่งออกมีมูลค่า 207,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดลบ 2.4% และการนำเข้ามีมูลค่า 199,442 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯติดลบ 4.1% ส่งผลให้ 10 เดือนไทยเกินดุลการค้า 7,888 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ สรท. ประเมินการส่งออกในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี หากรักษาตัวเลขส่งออกได้ที่มูลค่า 20,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน คาดทั้งปีนี้การส่งออกไทยจะติดลบที่ 1.5 % ซึ่งจากการประเมินยังไม่มีปัจจัยบวกใด ๆ ที่จะมาสนับสนุนให้การส่งออกฟื้นตัวได้ สรท. จึงได้ปรับลดคาดการณืส่งออกไทยปี 2562 ลง โดยคาดว่าทั้งปีนี้จะติดลบ 2.5 – 3% จากปัจจัยเสี่ยงสงครามการค้า ปัญหาสถานกาณ์ค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง กฎหมายและมาตรการภาครัฐที่กำหนดเพิ่มเติมในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว เป็นการลดทอนความสามารถในการแข่งขันของภาคการส่งออกให้ถดถอยมากขึ้น และเศรษฐกิจภายในประเทศที่มีแนวโน้มชะลอตัว ส่วนในปี 2563 สรท.คาดการส่งออกไทยจะขยายตัวในกรอบ 0 – 1% บนสมมติฐานค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ สรท.ได้จัดทำข้อเสนอแนะเพื่อสนับสนุนการส่งออก ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ต้องบริหารจัดการค่าเงินด้วยมาตรการที่เข้มข้นไม่ให้บาทแข็งค่า ภาครัฐควรให้ความสำคัญกับการพลิกฟื้นการส่งออกและกำหนดมาตรการเร่งด่วนเพื่อลดต้นทุนการผลิต และพัฒนาเกษตรกรให้มีทักษะและความรู้ในการใช้เทคโนโลยีมาทดแทนแรงงานภาคเกษตร อย่างไรก็ตาม สรท.มีความกังวลต่อสถานการณ์ขะลอตัวของการส่งออกไทย เพราะหากการส่งออกยังคงชะลอตัวหรือหดตัว จะทำให้เกิดผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ ดังนั้นภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องหันมาให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการและสินค้าไทยสามารถแข่งขันได้