11 ปียังมีต่อเนื่อง เจโทรนำ SMEs ญี่ปุ่นบุกไทย

26 พ.ย. 2562 | 06:18 น.

 

เมทัลเล็กซ์ (Metalex) 2019 งานแสดงสินค้าเครื่องจักรที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทยเมื่อเร็วๆนี้ (20-23 พ.ย.) สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของบริษัทญี่ปุ่นที่เข้ามาร่วมออกบูธแสดงสินค้าภายในงานจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยในปีนี้มีจำนวนเพิ่มเป็น 52 บริษัท อีกทั้งยังมีหน่วยงานรัฐบาลร่วมมาด้วยอีก 10 หน่วยงานจาก 16 จังหวัดในประเทศญี่ปุ่น

 

ข้อมูลขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร กรุงเทพฯ ระบุว่า ความสนใจของบริษัทญี่ปุ่นนั้นมีมาอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้นับเป็นปีที่ 11 แล้วที่เจโทรมาร่วมแสดงบูธ ‘เจโทร พาวิลเลียน’ (JETRO Pavilion) รวบรวมผู้แทนธุรกิจจากกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตจากญี่ปุ่น เช่น เครื่องจักรอุตสาหกรรมและอะไหล่เครื่องวัด และอุปกรณ์การผลิต เป็นต้น เข้าร่วมออกบูธ เพื่อบุกเบิกตลาดใหม่ในประเทศไทย รวมทั้งเพื่อขยายตลาดไปสู่ประเทศอื่นๆในภูมิภาคอาเซียนด้วย  

11 ปียังมีต่อเนื่อง เจโทรนำ SMEs ญี่ปุ่นบุกไทย

 

 

บริษัทญี่ปุ่นที่มาออกบูธงาน Metalex นั้น แรกเริ่มมีวัตถุประสงค์หลักคือมุ่งเจาะตลาดในประเทศไทย โดยนับจากครั้งแรกที่เจโทรได้มาร่วมออกบูธในงาน Metalex ปี 2552 ได้มีการทำแบบสอบถามบริษัทที่มาออกบูธ พบว่า ส่วนมากเป็นบริษัทที่เพิ่งเริ่มเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ผลแบบสอบถามในครั้งนั้นระบุว่า วัตถุประสงค์อันดับแรกในการเข้าร่วมงาน คือ ต้องการสำรวจตลาดและรวบรวมข้อมูล และเพื่อบุกเบิกตลาดใหม่ นับจากนั้นเป็นต้นมา เจโทรจึงได้จัดตั้ง JETRO Pavilion เป็นประจำทุกปีภายในงาน Metalex 

 

11 ปียังมีต่อเนื่อง เจโทรนำ SMEs ญี่ปุ่นบุกไทย

“จนปีนี้เข้าสู่ปีที่ 11 ที่เจโทรนำบริษัทของญี่ปุ่นมาร่วมงาน ซึ่งเมื่อเทียบกับการจัดงานครั้งแรก จะเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของวัตถุประสงค์ในการเข้าร่วมออกบูธ กล่าวคือ 80% ของผู้เข้าร่วมงาน เป็นการเข้าร่วมงานซ้ำหลายครั้ง (ไม่ใช่รายหน้าใหม่ที่เพิ่งมาเป็นครั้งแรก) และในจำนวนนั้น มากกว่าครึ่งเป็นบริษัทที่มีคู่ค้าท้องถิ่นในไทยอยู่แล้ว เช่น ตัวแทนจำหน่าย  และสำหรับตลาดไทยที่เติบโตสูง จำนวนบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ทางธุรกิจสูงขึ้นไปอีกขั้น เช่น ต้องการสร้างแบรนด์ให้กับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเอง และต้องการขยายช่องทางการขาย ก็ได้เพิ่มมากขึ้นด้วย” รายงานของเจโทรระบุ
 

 

นอกจากนี้  อีกพัฒนาการที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือวัตถุประสงค์ความต้องการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาที่บริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตของไทยประสบอยู่ ทั้งนี้  JETRO Pavilion สามารถตอบโจทย์และสร้างโอกาสทางการค้าเพื่อตอบสนองนโยบาย ‘ไทยแลนด์ 4.0’ ดังจะเห็นได้ว่า บริษัทตัวแทนของญี่ปุ่นที่มาออกบูธนั้นหลายรายเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต,ชิ้นส่วนอากาศยาน และอุปกรณ์เครื่องมือ การแพทย์ ซึ่งจะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมไทยไปสู่อุตสาหกรรมขั้นสูงตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้ อีกทั้งยังเปิดโอกาสในการสร้างความร่วมมือและช่วยผลักดันระบบอัตโนมัติ, การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต, พลังงานแห่งอนาคต และการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในหน้างานการผลิต เพื่อแก้ปัญหาและความท้าทายที่ประเทศไทยกำ ลังประสบอยู่

11 ปียังมีต่อเนื่อง เจโทรนำ SMEs ญี่ปุ่นบุกไทย

ทั้งนี้ เจโทรได้พยายามสนับสนุนให้บริษัทผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของญี่ปุ่นได้มีโอกาสมาเปิดตลาดและทำความรู้จักกับประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยปีนี้ เจโทรได้จับมือกับ Tokyo  SME Support Center และ ACT International Center ซึ่งเป็นตัวแทนของ METALEX 2019ในประเทศญี่ปุ่น มาร่วมออกบูธในรูปแบบของ All Japan เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของบริษัทญี่ปุ่นและเสริมสร้างแบรนด์ให้กับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับเครื่องจักรของญี่ปุ่น ผ่านโครงการ All Japan โดยมีการใช้โลโก้ ‘แจแปน โมโนะซุคุริ’ (Japan Monozukuri) ร่วมกัน และมีการจัดกิจกรรมเพิ่มโอกาสการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ออกบูธจากญี่ปุ่นและผู้ซื้อฝ่ายไทย ผ่านกิจกรรม Stamp Rally ซึ่งก็ประสบความสำเร็จด้วยดี