ต้านทานโควิด-19 ด้วยผัก-ผลไม้ 3 กลุ่ม
การระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกสองรุนแรงลุกลามรวดเร็ว แต่หากใครมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ย่อมได้เปรียบ ไม่ว่าจะหมั่นดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท งดสังสรรค์ไปยังพื้นที่เสี่ยง หากมีความจำเป็นต้องพบปะผู้คนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน โควิดของกระทรวงสธารณสุขอย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม เรื่องอาหาร ที่เรารับประทานก็สำคัญ โดยเฉพาะพืช-ผัก-ผลไม้ ทั้งนี้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำให้รับประทานผักและผลไม้ 3 กลุ่ม ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน มีสารต้านอนุมูลอิสระ และลดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ อีกทั้งในระยะยาวยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการรับเชื้อโรคอุบัติใหม่ อย่างไวรัสโควิด-19ได้อีกด้วย
เริ่มจากกลุ่มแรก ผักที่มีฤทธิ์ในการสร้างภูมิต้านทาน กลุ่มเห็ดต่างๆ เช่น เห็ดฟาง เห็ดหอม เห็ดหลินจือ เห็ดออรินจิ โดยสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น ต้มยำเห็ด ยำเห็ด ผัดเห็ด กลุ่มที่ 2 ผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น คะน้า ใบเหลียง กะเพรา บวบ โดยสามารถนำมาประกอบอาหารโดยเฉพาะเมนูแกงเลียงซึ่งมีผักหลากหลายชนิดทั้งบวบ แครอท ผักหลากสี หรือเห็ด ซึ่งจะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
กลุ่มที่ 3 ผักที่ฤทธิ์ลดการติดเชื้อทางเดินหายใจ โดยในหัวหอมแดง หอมใหญ่จะมีสารเคอร์ซิติน (Quercetin) รวมไปถึงขมิ้น ข่า ตะไคร้ โดยสามารถทำเมนูง่าย ๆ เช่นไข่เจียวหอมแดง หรือการรับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวซึ่งวิตามินซีสูง เช่น ส้ม มะนาว มะขามป้อม ฝรั่ง แอปเปิล มะม่วง ซึ่งจะช่วยลดการติดเชื้อไวรัสได้ หรือทำเมนูนํ้าอัญชัน นํ้าส้ม นํ้ามะนาว นํ้าตรีผลา
ทั้งนี้นพ.สรรพงศ์ ฤทธิรักษา รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกระบุถึงแนวทางปฏิบัติ กินอยู่อย่างไทยในยุควิถีใหม่หรือ new normal ว่า นอกจากการรับประทานอาหารเช่นผักและผลไม้ใน 3 กลุ่ม เพื่อสร้างภูมิต้านทาน กลุ่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และลดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เมื่อร่างกายแข็งแรงผลที่ตามมาคือจิตใจที่มีความสุข
แต่ทั้งนี้ เชื่อว่าหลายคนอาจมีความ เครียดในสภาวะเช่นนี้แนะนำว่า ควรสวดมนต์ ทำสมาธิบำบัดแบบ SKT หรือการทำสมาธิที่เกิดจากการผสานศาสนศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาร่างกายให้สามารถเยียวยาตัวเองได้ ตลอดจนการออกกำลังกายโดยสามารถออกกำลังกายที่บ้าน
สำหรับการปรับสู่วิถีชีวิตใหม่ (new normal) ถือว่าเป็นโอกาสที่คนไทยจะปรับวิถีสุขภาพทั้งการรับประทานผัก ผลไม้ ที่มีประโยชน์และดูแลการออกกำลังกายควบคู่กันไป และกลับมาใช้วิถีไทยที่เรียบง่ายในการดูแลสุขภาพของตนเอง
หากประชาชนปลูกผักเพื่อรับประทานเองในครัวเรือน เนื่องจากผักบางชนิดใช้พื้นที่น้อย ปลูกง่ายและมีประโยชน์ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ หรือการปลูกในชุมชนก็สามารถนำมาแลกเปลี่ยนกันได้โดยการปลูกสิ่งที่กิน กินสิ่งที่ปลูกจะช่วยเยียวยาเศรษฐกิจและครัวเรือนได้
อย่างไรก็ตามหากต้องซื้อหามารับประทานกระทรวงกระทรวงสาธารณสุขให้ตระหนักถึงความสะอาดของผักผลไม้ ซึ่งปัจจุบันอาจเสี่ยงป่วยจากพิษสารกำจัดศัตรูพืช ซึ่งมีทั้งพิษแบบเฉียบพลัน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะและพิษเรื้อรัง เช่น โรคผิวหนัง มะเร็ง และโรคระบบประสาทดังนั้นจึงต้องล้างทำความสะอาด เพื่อลดสารพิษดังกล่าว ลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แม้พืชผักผลไม้จะมีประโยชน์ดีต่อรางกายแต่อย่าลืมว่า ต้องล้างให้สะอาดก่อนปรุงหรือรับประทานเป็นดีที่สุด!!
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,642 วันที่ 7 - 9 มกราคม พ.ศ. 2564